ฟ็อกซ์นิวส์ - ลือสะพัด เรือสินค้าสัญชาติเยอรมัน เอสเอส มินเดน ซึ่งจมลงในแถบน่านน้ำใกล้ประเทศไอซแลนด์ ในช่วงวันแรกๆ ของสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจบรรทุกขุมทรัพย์ทองคำของนาซีจำนวนมหาศาล
เรือสินค้าลำดังกล่าว ซึ่งจมอยู่บริเวณทางใต้ของไอซแลนด์ราวๆ 120 ไมล์ทะเล ตกเป็นเป้าสนใจจากทั่วโลก หลังมีข่าวลือว่ามีการพบหีบบรรจุทองคำนาซีหนัก 4 ตัน หีบหนึ่งบนซากเรือ ด้วยประมาณการว่าขุมทรัพย์นี้อาจมีมูลค่าถึง 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4,300 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า แอดวานซ์ มารีน เซอร์วิซ (เอเอ็มเอส) บริษัทกู้ภัยสัญชาติอังกฤษ ได้ยื่นขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ไอซ์แลนด์ สำหรับเจาะรูในลำตัวเรือและกู้หีบขึ้นมา
โฆษกสำนักงานสิ่งแวดล้อมของไอซ์แลนด์ ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ ว่า ได้รับใบคำร้องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม คงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ ก่อนตัดสินใจว่าจะอนุญาตหรือไม่ ซึ่งหากอนุญาต ก็คงเป็นการอนุญาตภายใต้เงื่อนไขต่างๆ
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ไอซ์แลนด์มอนิเตอร์ รายงานว่า ซีบ คอนสตรัคเตอร์ เรือกู้ภัยที่จ้างโดยเอเอ็มเอส ถูกสั่งให้กลับไปเทียบเท่าที่กรุงเรคยาวิก หลังตกเป็นเป้าสายตาของยามชายฝั่งไอซ์แลนด์ และมีรายงานว่า ทนายความของบริษัทยอมรับกับยามชายฝั่งว่าลูกเรือของ ซีบ คอนสตรัคเตอร์ กำลังมองหาซากเรือมินเดน
ตัวแทนของบริษัทยืนยันกับฟ็อกซ์นิวส์ ว่า เรือซีบ คอนสตรัคเตอร์ ถูกร้องขอให้กลับไปเทียบท่าที่เรคยาวิก เมื่อวันที่ 8 เมษายน “บริษัทให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับยามชายฝั่งไอซ์แลนด์ และชี้แจงว่า มันเป็นความเคลื่อนไหวที่ชอบธรรมตามกฎหมายและได้รับอนุญาตกลับคืนสู่ทะเลไม่นานหลังจากนั้น” ตัวแทนระบุ “เอเอ็มเอส ปฏิบัติตามกฎหมายพาณิชย์นาวีระหว่างประเทศอย่างสมบูรณ์และไม่เคยดำเนินกิจกรรมใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต”
มินเดน ไม่ได้อยู่ในเขตน่านน้ำของไอซ์แลนด์ แต่อยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศ ซึ่งครอบคลุมรัศมี 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งไอซ์แลนด์ นั่นหมายความว่า แม้เจ้าหน้าที่ไอซ์แลนด์ไม่มีสิทธิ์อ้างเพื่อกู้ซากเรือ แต่พวกเขาสามารถใช้มาตรการควบคุมมลพิษและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมบริเวณตำแหน่งที่เรือจมได้
จุดที่เรือเสียหาย บ่งชี้ว่า ลูกเรือของมินเดนเป็นคนจมเรือลำนี้เองในวันที่ 24 กันยายน 1939 เพื่อปกป้องไม่ให้มหาสมบัติที่อยู่บนเรือตกอยู่ในมือของกองทัพอังกฤษ ขณะที่เรือลำนี้กำลังเดินทางจากอเมริกาใต้กลับสู่เยอรมนี
ปฏิบัติการตามล่าทองคำของนาซี ยังคงเป็นสิ่งดึงดูดใจของพวกนักล่าสมบัติทั่วโลก โดยหลักฐานหนึ่งก็คือ ความพยายามในการค้นหารถไฟมหาสมบัติของนาซีที่ถูกฝังอยู่ในโปแลนด์เมื่อเดือนสิงหาคม 2015