เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เรือผู้อพยพล่มนอกชายฝั่งลิเบียวันนี้ (24 พ.ค.) มีผู้โดยสารราว 200 คน รวมไปถึงเด็กตกลงไปในน้ำหลังจากเรือที่นั่งมาเกิดคว่ำเนื่องจากรับน้ำหนักมากเกินไป ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 30 ราย สุดตึงเครียดระหว่างกลุ่มกู้ภัย กับยามฝั่งลิเบีย ล่าสุดเอ็นจีโอเยอรมันช่วยผู้อพยพขึ้นจากน้ำ 100 คน หลังตกใจกระโจนลงทะเลจากเรือยามฝั่งลิเบียที่ได้เปิดฉากยิง
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า โฆษกยามฝั่งเปิดเผยกับเอเอฟพี ในขณะที่กลุ่มช่วยเหลือบรรเทาทุกข์กำลังปฎิบัติงานอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยระบุว่า “วันนี้เกิดเหตุคับขัน มีคนถึง 200 คนตกลงไปในทะเล” และกล่าวต่อว่า “ล่าสุดมีการกู้ศพขึ้นมาได้แล้ว 31 ราย”
ทั้งนี้พบว่าผู้อพยพนั่งอยู่ในเรือที่ทำด้วยไม้ ซึ่งมีคนอยู่ด้านในราว 500-700 คน เดินทางออกห่างจากฝั่งเพียง 20 ไมล์ทะเลเท่านั้นก่อนเกิดเหตุ
เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากเรือช่วยเหลือฟินิกซ์ ซึ่งถูกใช้สำหรับหน่วยงานเอ็นจีโอ MOAS สัญชาติมัลตา ได้เริ่มต้นช่วยเหลือ และแจกจ่ายเสื้อชูชีพให้แก่ผู้ประสบเคราะห์ เมื่อผู้อพยพที่ได้ตกลงไปในน้ำเนื่องมาจากเสียการทรงตัวเพราะแรงคลื่น
โดยในการทวีตของคริส คาตรัมโบน (Chris Catrambone) ผู้ก่อตั้งร่วมกลุ่ม MOAS กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างพยายามที่จะตัดล็อกบนเรือไม้ลำเกิดเหตุที่มีผู้อพยพจำนวนหลายร้อยคนถูกขังอยู่ด้านใน”
และด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ยามฝั่งอิตาลีและเรือคาร์โก้อื่นๆ ในละแวกนั้น กลุ่มเจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานแข่งกับเวลาในการพยายามที่จะดึงร่างผู้ลี้ภัยให้ได้มากที่สุดขึ้นจากน้ำ ในขณะเดียวกันกับที่อากาศยานทางทหารของกองทัพได้โยนแพยางช่วยชีวิตลงมาทางอากาศ ส่วนนักบินเฮลิคอปเตอร์ได้บินเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต
คาตรัมโบนกล่าวต่อว่า “ในขณะนี้พบแล้ว 31 ร่าง” และเสริมต่อว่า มีเด็กเล็กจำนวนหนึ่งรวมอยู่ด้วย
ด้านยามฝั่งเปิดเผยต่อว่า เฉพาะแค่ในวันพุธ (24 พ.ค.) มีการออกปฏิบัติการช่วยเหลือไปแล้ว 15 ครั้งนอกชายฝั่งลิเบีย
ทั้งนี้ ก่อนหน้าในวันอังคาร (23 พ.ค.) ได้มีปฏิบัติการช่วยเหลือสามารถช่วยชีวิตผู้อพยพได้จำนวน 1,500 คน ในขณะกู้ภัยลิเบียสามารถช่วยได้ 237 คน ที่รวมไปถึงผู้หญิง 20 คน และเด็ก 15 คน เดินทางออกมาด้วยเรือไม้จำนวน 2 ลำ ซึ่งในจำนวนทั้งหมด พบมีชาวลิเบีย 12 ราย ที่รวมไปถึงผู้หญิง 5 คน และเด็ก 3 คน
ด้านเอ็นจีโอชาวเยอรมัน ยูเกนด์ เร็ตเต็ต (Jugend Rettet) ได้ถ่ายภาพและให้ข้อมูลในวันอังคาร (23 พ.ค.) ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ได้บังเอิญพบเข้ากับกลุ่มคนติดอาวุธที่อยู่บนเรือที่เชื่อว่าถูกควบคุมโดยหน่วยงานยามฝั่งลิเบีย
ทั้งนี้ พบว่าเรือลิเบียลำดังกล่าวมีผู้โดยสารเต็มบนเรือ ที่เชื่อว่าถูกนำตัวออกมาจากเรือผู้อพยพแบบไม่มีเครื่องยนต์กลางทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในปฏิบัติการกู้ภัยของยามฝั่งลิเบียที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้
เอ็นจีโอเยอรมันรายนี้ได้แสดงภาพถ่ายที่ชี้ให้เห็นถึงกลุ่มชายติดอาวุธกำลังถืออาวุธชี้ไปที่กลุ่มผู้อพยพ และเขากล่าวว่า “ได้มีการยิงออกไปจำนวนหนึ่ง” และ “ผู้อพยพถูกทำร้ายร่างกาย”
เอเอฟพีรายงานว่า ทั้งนี้พบว่ามีผู้อพยพจำนวน 100 คนอยู่บนเรือลิเบียในขณะที่มีเสียงปืนดังขึ้น ซึ่งเร็ตเต็ตระบุว่า ดูเหมือนผู้อพยพเหล่านี้อยู่ในความกลัวเมื่อมีเสียงปืนดังเกิดขึ้น และได้กระโจนลงทะเลไป ว่ายน้ำตรงเข้าหาเรือของชาวเยอรมัน ลูเวนตา แอนด์ เดอะเอสโอเอสเมดิเตอร์รานี(Iuventa and the SOS Mediterranee) ที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที
โดยเร็ตเต็ตแถลงว่า “ทางเราไม่สามารถระบุได้ว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการยิงมากเท่าใด เพราะทางเราต้องระมัดระวังตัวเองไม่ให้ถูกกระสุน”
รอยเตอร์รายงานยืนยันเหตุเรือยามฝั่งลิเบียเปิดฉากยิงวันอังคาร (23 พ.ค.) โดยกล่าวว่า มีรายงานพบเรือยามฝั่งลิเบียได้ใช้ปืนยิงในขณะที่เรือเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังทำงานอยู่ในเวลานั้น และการกราดยิงทำให้ผู้อพยพจำนวน 100 คนตัดสินใจกระโจนลงทะเล และว่ายตรงไปยังเรือกู้ภัยแทน
รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า ไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการยิง แต่ระบุว่า หลังจากยิงเสร็จสิ้นแล้ว เรือยามฝั่งลิเบียได้ลากเรือผู้อพยพ 2 ลำกลับเข้าฝั่ง ในขณะที่เรือกู้ภัย ซึ่งมีเรือของเร็ตเต็ต รวมอยู่ในนั้น สามารถช่วยเหลือผู้อพยพจำนวนกว่า 1,000 คน