ศูนย์ข่าวศรีราชา- “ ดร.ชัชชาติ” ชี้ตลาดอสังหาฯเมืองระยอง จะเริ่มขยับในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังการเกิดขึ้นของโครงการ อีอีซี แต่ต้องเป็นการขยับแบบค่อยเป็นค่อยไป ย้ำอนาคตเมืองระยอง ต้องปรับสู่การเป็นเมืองปลอดมลพิษคู่การท่องเที่ยวและเกษตรกรรม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากสนามบินอู่ตะเภา โดยไม่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมเช่นปัจจุบัน
วันนี้(25 เม.ย.) สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง ได้จัดให้มีสัมมนาหัวข้อ “อนาคตเมืองระยองผ่านมุมมองดร.ชัชชาติ” โดยมี ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ บรรยายพิเศษในหัวข้อ " อนาคตเมืองระยอง" ณ ห้องสร้อยเพชร โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง อ.เมืองระยอง และมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายเปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง และคณะกรรมการให้การต้อนรับ นอกจากนั้นยังมีผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จ.ระยอง และผู้ประกอบการด้านหมู่บ้านจัดสรร และผู้ประกอบการโรงแรม เข้าร่วม
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวถึงการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ใน จ.ระยอง ว่าหลังการเกิดขึ้นของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ อีอีซี. นักลงทุนและผู้ประกอบการจะเข้ามาในพื้นที่ จ.ระยอง เพิ่มมากขึ้น แต่จะเป็นการเข้ามาในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมกับแรงงานต่างถิ่นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ผู้บริหารอาจไม่ต้องเดินทางลงพื้นที่เอง แต่เป็นการสั่งงานจากที่อื่น
ส่วนการที่จะสนับสนุนให้ จ.ระยอง มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นนั้น จะต้องให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพชีวิต ความสะดวกด้านการเดินและความปลอดภัย ที่สำคัญจะต้องไม่มีมลภาวะด้วยการลดพื้นที่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมลง
" จะต้องมีการดึงคนเก่งจากทั่วประเทศหรือทั่วโลก ให้มาอยู่ที่เมืองระยอง เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิต ควบคู่การพัฒนาการเกษตรและการท่องเที่ยวควบคู่กันไป จึงจะทำให้ จ.ระยอง มีจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่นอกจากการมี สวนผลไม้คุณภาพ ,ทะเลที่สวยงาม และสนามบินอู่ตะเภา "ดร.ชัชชาติ กล่าว
ขณะที่ นายเปรมสรณ์ ศรีวิบูลย์ชัย นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง กล่าวว่าการเกิดขึ้นของโครงการ อีอีซี จะทำให้ จ.ระยอง มีความคึกคัก แต่อาจสู้ จ.ชลบุรีไม่ได้ อย่างไรก็ตามพื้นที่ที่หน้าจับตา คือ อ.บ้านฉาง ที่อยู่ใกล้สนามบินอู่ตะเภา และ มีศูนย์ซ่อมเครื่องบิน ที่ขณะนี้เริ่มมีพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของสายการบินต่างๆ เข้ามาพักอาศัยแล้ว
"คาดว่าโครงการ อีอีซี. ทีเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจะทำให้เกิดการก่อสร้าง แรงงานและผู้ประกอบการในพื้นที่มากขึ้น แต่จะเป็นในช่วง 1-2 ปีหลังจากนี้ และขณะนี้ราคาที่ดินย่าน อ.บ้านฉาง ก็มีการปรับตัวเพื่อรองรับความเจริญที่จะเกิดขึ้นแล้ว คือจากเดิมไร่ละ 2-3 ล้านบาท ก็ขยับเป็น 5-6 ล้านบาท ส่วนพื้นที่วางเปล่าขณะนี้เริ่มเหลือน้อยแล้ว
ซึ่งจากการรับฟังข้อมูลจาก ดร.ชัชชาติ พบว่า จ.ระยอง ยังไม่มีจุดขาย ดังนั้นภาคเอกชน ทั้ง หอการค้า, ,สภาอุตสาหกรรม ,กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และหน่วยงานภาครัฐ จะต้องวางแผนความร่วมมือในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้"นายเปรมสรณ์ กล่าว