อุตรดิตถ์ - ร้อนแรงอีกรอบ กรณีข้าราชการเทศบาลฯ ท่าสักหนีราชการผ่านไป 3 เดือนแล้วไม่มีคืบ จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นหน้าคณะกรรมการ ผู้ว่าฯ ถามจะสอบกันทั้งชาติหรือไง!? ลั่นนับจากนี้ 30 วันต้องเสร็จ บอกนายอำเภอพิชัย-นายกเทศมนตรีฯ ทำไม่ได้จะตั้งกรรมการสอบเอง
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาอีกรอบ กรณีนายยิ่งใหญ่ อายะนันทน์ อดีตนักแสดงชื่อดัง นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) ท่าสัก อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โพสต์ภาพ-ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “ความว่างเปล่าเวลานี้ 14.40 น.ที่เทศบาลท่าสัก ศุกร์-สุขกันมากเลยครับท่านผู้ชม ว่างแม้กระทั่งห้องทำงาน ภาพที่ถ่ายทั้งหมดเวลา 14.40 น.วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2560”
ก่อนจะออกมาระบุด้วยว่า หมดความอดทนกับการทำงานของข้าราชการ และพนักงานบางคนของ ทต.ท่าสักแล้ว หนีราชการกลับบ้านก่อนเวลาราชการ ข้าราชการบางคนไม่ค่อยมาทำงาน ไม่สนองนโยบายของผู้บริหารเทศบาล
ต่อมานายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา ผลสรุปว่าข้าราชการหนีราชการจริง พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยด้วย โดยคณะกรรมการระดับอำเภอที่นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นายอำเภอพิชัย แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อสอบสวนมีข้อสรุปว่า ข้าราชการ-พนักงานหนีราชการและกลับบ้านก่อนเวลาราชการจริง และมอบอำนาจให้นายก ทต.ท่าสักเป็นผู้ลงโทษทางวินัยข้าราชการ และพนักงานในห้องสำนักปลัด ทต.ท่าสัก แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีข้าราชการคนใดถูกลงโทษ
ล่าสุด นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ผ่านไป 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะมีข้าราชการคนใดบ้างต้องถูกลงโทษอย่างไร การตั้งกรรมการสอบสวนก็ยังไม่แล้วเสร็จ ไม่ทราบว่าจะตั้งกันทั้งชาติหรืออย่างไร
ขณะนี้ได้ให้ท้องถิ่นจังหวัดทำหนังสือไปเร่งแล้ว โดยจะให้เวลา 15 วันจะต้องได้ตัวคนมาเป็นกรรมการ และให้กรรมการทำงานอีก 15 วันจะต้องสรุปออกมาว่าข้าราชการรายใดถูกลงโทษอย่างไร เพราะเรื่องนี้ถือว่าความผิดได้ชัดเจนแล้ว เพราะรายงานที่นายอำเภอพิชัยให้กรรมการสอบสวนสรุปว่าหนีราชการจริง
นอกจากนี้ยังได้สั่งการไปยังนายอำเภอพิชัยแล้วว่าจะต้องทำหนังสือตักเตือนไปยังนายยิ่งใหญ่ (นายก ทต.ท่าสัก) ด้วยว่าปล่อยปละละเลยให้ข้าราชการหนีราชการได้อย่างไร เนื่องจากไม่สามารถตั้งกรรมการสอบสวนวินัยนายยิ่งใหญ่เหมือนข้าราชการได้
“คนที่จะต้องรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นในส่วนของข้าราชการคือ ปลัด ทต.ท่าสัก ถือว่าจะต้องเป็นผู้ถูกลงโทษเป็นคนแรกในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการ แต่ปล่อยให้ข้าราชการหนีงานไปได้ การตัดเงินเดือนสำหรับความผิดนี้มันยังถือว่าน้อยไป จะต้องลดขั้นเงินเดือนทุกราย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีแก่ข้าราชการรายอื่นๆ”
ส่วนความล่าช้าที่เกิดจากไม่มีใครกล้ามาเป็นกรรมการสอบสวนความผิดนั้น หาก ทต.ท่าสัก หรือนายอำเภอพิชัยตั้งกรรมการกันไม่ได้ตนจะตั้งเอง โดยจะตั้งเครือข่ายวินัยที่ผ่านการอบรมมาแล้ว และหากเครือข่ายวินัยไม่เป็นกรรมการก็จะตั้งกรรมการสอบไปด้วย เพราะใช้งบประมาณราชการไปอบรมแต่ไม่ทำงาน ก็ต้องเสนอตัดเงินค่าตอบแทนนักกฎหมายทันทีด้วยเช่นกัน
ผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์กล่าวอีกว่า การหนีราชการของข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้น ผู้ว่าฯ ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากเพราะเพียงแค่กำกับดูแลเท่านั้น ผู้ที่กำกับดูแลโดยตรงคือนายก อปท. หากปล่อยปละละเลยให้ข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาหนีราชการ ตัวผู้บริหาร อปท.ก็สมควรที่จะต้องถูกตำหนิไปด้วย เพราะจะต้องรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ประโยชน์ของประชาชน ไม่ควรเห็นผลประโยชน์ของพรรคพวกเป็นที่ตั้ง
ส่วนข้าราชการเองก็ควรตระหนักในบทบาทและหน้าที่ตัวเองให้มาก จะต้องออกไปดูแลปัญหาสอบถามความเดือดร้อนของประชาชนถึงในพื้นที่ไม่ใช่นั่งทำงานอยู่แต่ในห้องปรับอากาศจนไม่สนใจงาน จนถูกมองว่าคนมากกว่างานแต่ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์เลย