MGR Online - ผบช.น.เผยคนร้ายอีก 3 รายในคดีอุ้มฆ่าสาวหล่อ ยังไม่มีการประสานมอบตัวตามที่มีกระแสข่าว ยืนยันไม่ได้ทำสำนวนล่าช้า ไม่หวั่นกระทบรูปคดีแม้ยังจับไม่ได้
วันนี้(23 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องหาจ้างวานอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง สาวหล่อ อายุ 28 ปี พนักงานร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่งย่านพุทธมณฑลสาย 4 เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2559 ว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ต้องหาประสานเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเข้าหรือไม่เข้ามามอบตัวนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ก็จะต้องมีการสืบสวนจับกุมตัวเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ให้พี่น้องประชาชนและผู้เสียหายจะได้มีความสบายใจว่าคนที่ไม่ดีและคนที่กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ต้องดำเนินการ แต่บางครั้งบางคราวดวงโจรยังไม่ถึงฆาต
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระแสข่าวว่าผู้ต้องมีการประสานขอเข้ามอบตัวต่อตำรวจ ผบช.น.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับการประสานโดยตรง กระแสข่าวก็คือกระแสข่าว แต่เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานกันตลอดระหว่างผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดกับผู้ปฏิบัติการ โดยวางกำลังตรวจสอบในทุกด้าน ส่วนผู้ต้องหาจะอยู่ในประเทศหรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบ แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามเร่งรัดติดตามจับกุม ผู้ต้องหาไม่ใช่สัตว์ สามารถเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา ไม่ได้อยู่นิ่ง ไม่ต้องกังวลเรื่องการติดตามจับกุม มันเป็นอาชีพของตำรวจอยู่แล้ว
ทั้งนี้แม้ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คน ในเรื่องของสำนวนไม่ต้องห่วง ตนดูทุกตัวอักษร ลงลึกทุกรายละเอียด และให้คำแนะนำผู้ใต้บังคับบัญชา และยึดหลักตามมาตรฐานใกล้เคียงกับมาตรฐานของอัยการและศาล คือ ต้องพิสูจจน์ทราบจนปราศจากข้อสงสัย ถ้าสงสัยพนักงานสอบสวนก็จะต้องสอบให้สิ้นกระแสความ ส่วนกรณีสังคมมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือทหารซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้นั้น
“ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือใครทั้งสิ้น ย้ำว่าการทำสำนวนคดีไม่ได้ล่าช้าเพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานข้อมูลกับผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหาร และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี คาดว่าภายในอาทิตย์นี้จะมีข่าวดี ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นทหารทราบว่าอยู่ในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก ขาดงาน 3-4 วันก็ถือว่าหนีราชการแล้ว ผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารไม่ได้ปล่อยปละละเลย” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถ้าผู้ต้องหาเข้ามอบตัวจะไม่ยอมให้ประกันตัว ถ้าจะมามอบก็มอบ ถ้าไม่มาก็จับ ถ้าต่อสู้ก็จำเป็นจะต้องใช้ความรุนแรง และพนักงานสอบสวนจะมีการค้านประกันแน่นอน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งนั้น พนักงานสอบสวนได้มีการประสานการปฏิบัติตลอดไม่ต้องห่วง เจ้าหน้าที่จับได้แน่นอน