กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ประกาศพื้นที่เทศบาลตำบลภูสิงห์เป็นชุมชนสะอาดไร้ขยะ โชว์พลังความสามัคคีประชาชนร่วมจัดการขยะครัวเรือนครบ 100% เป็นแห่งแรกของจังหวัดกาฬสินธุ์ ด้านนายอำเภอสหัสขันธ์ชูเป็นต้นแบบการจัดการขยะให้ครบ 8 ตำบล พัฒนาสู่เมืองท่องเที่ยว
วันนี้ (5 มี.ค. 61) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลภูสิงห์ นายธนูสินธุ์ ไชยศิริ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประกาศเป็นชุมชนสะอาดไร้ถังขยะ ประชาชนจัดการขยะในครัวเรือนครบถ้วน 100% โดยเทศบาลตำบลภูสิงห์ร่วมกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ปลุกสำนึกและเรียนรู้จากภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริงจัดการขยะครัวเรือนโดยไม่มีถังขยะ นับเป็นแห่งแรกของ จ.กาฬสินธุ์ที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ว่าที่ ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดการขยะพื้นที่ ต.ภูสิงห์ พร้อมตัวแทนจากจังหวัดและส่วนราชการ อ.สหัสขันธ์ ได้ร่วมขบวนแห่ผ้าป่าขยะร่วมกับชาวบ้านตำบลภูสิงห์ ไอเดียสร้างสรรค์ประดิษฐ์ชุดแต่งกายจากขยะรีไซเคิล ตกแต่งรถขบวนด้วยขยะ และนำขยะมาประดิษฐ์สิ่งของสวยงาม ก่อนจะทำพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ตัวแทนชาวบ้านทั้ง 9 หมู่บ้าน
นายอดิศักดิ์ สมคะเณย์ นายกเทศมนตรีตำบลภูสิงห์ กล่าวว่า เทศบาลตำบลภูสิงห์มีทั้งหมด 9 หมู่บ้าน 600 ครัวเรือน ประชากร 2,750 คน โดยเทศบาลตำบลภูสิงห์อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว เขาภูสิงห์ บ้านเรือนประชาชนจะติดกับไร่ นา ท่าปลาแหล่งประมงพื้นบ้าน แต่ละวันจะมีคนเดินทางมารับซื้อปลาและผลผลิตการเกษตรจำนวนมาก สภาพแวดล้อมเดิมพื้นที่ ต.ภูสิงห์ที่สะดุดตาคือไม่เคยมีถังขยะในชุมชน ไม่มีรถเก็บขยะเทศบาล สภาพแวดล้อมในชุมชนสะอาดปราศจากขยะ
ที่ผ่านมาการจัดการขยะชาวบ้านจะมีทั้งเผา ขนย้ายไปทิ้งที่อื่น กระทั่งเกิดวิกฤตขยะมีมากขึ้น ชาวบ้านเผาทำลายบ่อย พอกพูนเป็นขยะสะสม มีการเรียกร้องให้ท้องถิ่นจัดหาถังขยะและรถขยะ ซึ่งสถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้น จึงเริ่มกระบวนการศึกษาข้อมูลจัดการขยะและร่วมทำ MOU กับทางมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ที่มีโครงการจัดการขยะชุมชน เทศบาลตำบลภูสิงห์เป็น 1 ใน 5 ตำบลนำร่อง และประสบความสำเร็จจากการลงมือทำทันที ปฏิบัติจริงจัง โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอสหัสขันธ์ ประชาชนพื้นที่ ต.ภูสิงห์ทั้ง 9 หมู่บ้าน
หลังการอบรมภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง เริ่มลงมือทำภายใน 1 สัปดาห์ พบว่าขยะเริ่มลดลง จากนั้นตั้งคณะทำงาน 9 หมู่บ้านเป็นผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้านและ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) จะเข้าไปให้คำแนะนำ กำกับดูแล ในอัตราคณะทำงาน 1 คนต่อ 6-10 ครัวเรือน ในพื้นที่สาธารณะ เจ้าหน้าที่เทศบาลเป็นผู้รับผิดชอบ วิธีการที่ดีสุด คือทำความสะอาด กำจัดขยะยกตำบล ไม่ให้มีเศษขยะ วัสดุแปลกปลอมอื่น ประชาชนเรียนรู้คัดแยกขยะ เก็บขยะ ทางเทศบาลฯ จะรับซื้อขยะก่อนจะรวบรวมไปจำหน่ายเป็นรายได้เข้ามายังรัฐอีกทางหนึ่ง
ด้าน ว่าที่ ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ ต.ภูสิงห์ได้รับการประกาศเป็นชุมชนสะอาดไร้ถังขยะ ประชาชนจัดการขยะในครัวเรือนครบถ้วน 100% เป็นแห่งแรกของ จ.กาฬสินธุ์ จากนี้จะติดตาม รณรงค์ให้เป็นชุมชนสะอาดอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน พื้นที่ อ.สหัสขันธ์เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก มีความสำคัญต้องใส่ใจดูแลความสะอาด ซึ่งทางอำเภอสหัสขันธ์จะขับเคลื่อนให้เป็นพื้นที่ปลอดถังขยะแบบ 100% ทั้ง 8 ตำบล โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ภูสิงห์ที่มีพื้นที่ติดกับเขื่อนลำปาว และเขาภูสิงห์ จะส่งเสริมให้เป็นจุดเที่ยว กินกุ้ง ปลา จากแหล่งธรรมชาติต่อไป
ด้านนางอั้ว พัฒนสาร อายุ 65 ปี ชาวบ้านบ้านหนองฝาย ต.ภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า เดิมต้องนำขยะมาเผาทำลาย จากการอบรมและเริ่มปฏิบัติรู้สึกดี เพราะทัศนะมองเป็นวัสดุเหลือใช้ที่สามารถเก็บมาสร้างมูลค่าได้ ไม่ต้องเผาทำลายให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย ไม่ถูกเพื่อนบ้านบ่น ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยคัดแยกขยะ ทำความสะอาดและเก็บขยะไว้ขายให้เทศบาลฯ แม้จะไม่ใช่เงินมากมายแต่ก็ภูมิใจช่วยให้ชุมชนสะอาด น่าอยู่ และมีสภาพแวดล้อมดี
วันนี้ (5 มี.ค. 61) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลภูสิงห์ นายธนูสินธุ์ ไชยศิริ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประกาศเป็นชุมชนสะอาดไร้ถังขยะ ประชาชนจัดการขยะในครัวเรือนครบถ้วน 100% โดยเทศบาลตำบลภูสิงห์ร่วมกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ปลุกสำนึกและเรียนรู้จากภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริงจัดการขยะครัวเรือนโดยไม่มีถังขยะ นับเป็นแห่งแรกของ จ.กาฬสินธุ์ที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ว่าที่ ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดการขยะพื้นที่ ต.ภูสิงห์ พร้อมตัวแทนจากจังหวัดและส่วนราชการ อ.สหัสขันธ์ ได้ร่วมขบวนแห่ผ้าป่าขยะร่วมกับชาวบ้านตำบลภูสิงห์ ไอเดียสร้างสรรค์ประดิษฐ์ชุดแต่งกายจากขยะรีไซเคิล ตกแต่งรถขบวนด้วยขยะ และนำขยะมาประดิษฐ์สิ่งของสวยงาม ก่อนจะทำพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ตัวแทนชาวบ้านทั้ง 9 หมู่บ้าน
นายอดิศักดิ์ สมคะเณย์ นายกเทศมนตรีตำบลภูสิงห์ กล่าวว่า เทศบาลตำบลภูสิงห์มีทั้งหมด 9 หมู่บ้าน 600 ครัวเรือน ประชากร 2,750 คน โดยเทศบาลตำบลภูสิงห์อยู่ติดกับเขื่อนลำปาว เขาภูสิงห์ บ้านเรือนประชาชนจะติดกับไร่ นา ท่าปลาแหล่งประมงพื้นบ้าน แต่ละวันจะมีคนเดินทางมารับซื้อปลาและผลผลิตการเกษตรจำนวนมาก สภาพแวดล้อมเดิมพื้นที่ ต.ภูสิงห์ที่สะดุดตาคือไม่เคยมีถังขยะในชุมชน ไม่มีรถเก็บขยะเทศบาล สภาพแวดล้อมในชุมชนสะอาดปราศจากขยะ
ที่ผ่านมาการจัดการขยะชาวบ้านจะมีทั้งเผา ขนย้ายไปทิ้งที่อื่น กระทั่งเกิดวิกฤตขยะมีมากขึ้น ชาวบ้านเผาทำลายบ่อย พอกพูนเป็นขยะสะสม มีการเรียกร้องให้ท้องถิ่นจัดหาถังขยะและรถขยะ ซึ่งสถานการณ์เริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้น จึงเริ่มกระบวนการศึกษาข้อมูลจัดการขยะและร่วมทำ MOU กับทางมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ที่มีโครงการจัดการขยะชุมชน เทศบาลตำบลภูสิงห์เป็น 1 ใน 5 ตำบลนำร่อง และประสบความสำเร็จจากการลงมือทำทันที ปฏิบัติจริงจัง โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอสหัสขันธ์ ประชาชนพื้นที่ ต.ภูสิงห์ทั้ง 9 หมู่บ้าน
หลังการอบรมภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริง เริ่มลงมือทำภายใน 1 สัปดาห์ พบว่าขยะเริ่มลดลง จากนั้นตั้งคณะทำงาน 9 หมู่บ้านเป็นผู้นำชุมชน ตัวแทนชาวบ้านและ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) จะเข้าไปให้คำแนะนำ กำกับดูแล ในอัตราคณะทำงาน 1 คนต่อ 6-10 ครัวเรือน ในพื้นที่สาธารณะ เจ้าหน้าที่เทศบาลเป็นผู้รับผิดชอบ วิธีการที่ดีสุด คือทำความสะอาด กำจัดขยะยกตำบล ไม่ให้มีเศษขยะ วัสดุแปลกปลอมอื่น ประชาชนเรียนรู้คัดแยกขยะ เก็บขยะ ทางเทศบาลฯ จะรับซื้อขยะก่อนจะรวบรวมไปจำหน่ายเป็นรายได้เข้ามายังรัฐอีกทางหนึ่ง
ด้าน ว่าที่ ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ ต.ภูสิงห์ได้รับการประกาศเป็นชุมชนสะอาดไร้ถังขยะ ประชาชนจัดการขยะในครัวเรือนครบถ้วน 100% เป็นแห่งแรกของ จ.กาฬสินธุ์ จากนี้จะติดตาม รณรงค์ให้เป็นชุมชนสะอาดอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน พื้นที่ อ.สหัสขันธ์เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก มีความสำคัญต้องใส่ใจดูแลความสะอาด ซึ่งทางอำเภอสหัสขันธ์จะขับเคลื่อนให้เป็นพื้นที่ปลอดถังขยะแบบ 100% ทั้ง 8 ตำบล โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ภูสิงห์ที่มีพื้นที่ติดกับเขื่อนลำปาว และเขาภูสิงห์ จะส่งเสริมให้เป็นจุดเที่ยว กินกุ้ง ปลา จากแหล่งธรรมชาติต่อไป
ด้านนางอั้ว พัฒนสาร อายุ 65 ปี ชาวบ้านบ้านหนองฝาย ต.ภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า เดิมต้องนำขยะมาเผาทำลาย จากการอบรมและเริ่มปฏิบัติรู้สึกดี เพราะทัศนะมองเป็นวัสดุเหลือใช้ที่สามารถเก็บมาสร้างมูลค่าได้ ไม่ต้องเผาทำลายให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย ไม่ถูกเพื่อนบ้านบ่น ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยคัดแยกขยะ ทำความสะอาดและเก็บขยะไว้ขายให้เทศบาลฯ แม้จะไม่ใช่เงินมากมายแต่ก็ภูมิใจช่วยให้ชุมชนสะอาด น่าอยู่ และมีสภาพแวดล้อมดี