พิจิตร - ชาวบ้านครวญ นโยบายบัตรคนจนผ่านมาหลายเดือนคนไผ่ท่าโพ เมืองชาละวันทั้งตำบลต้องเหมารถไปรูดบัตรซื้อของไกลร่วม 30 กม.กันทุกเดือน เถ้าแก่โชวห่วย-ร้านค้าชุมชนสมัครเข้าร่วมตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เครื่อง EDC
แม้ว่านโยบาย “บัตรคนจน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” จะโดนใจผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศก็ตาม แต่หลังจากเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ตุลาคม 60 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อร้านค้าชุมชนอีกเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ผู้ประกอบการร้านโชวห่วย-ตัวแทนชาวบ้าน ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร บอกว่า ประชาชนผู้มีรายได้น้อยของตำบลไผ่ท่าโพ 10 หมู่บ้านมีผู้ได้รับบัตรคนจนกว่า 1 พันคนจากรัฐบาลที่เปิดให้มีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเมื่อกลางปี 2560 จากนั้นช่วงปลายปี 2560 รัฐบาลได้ดำเนินการตามนโยบายด้วยการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยได้แจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ซึ่งแต่ละคนจะได้สิทธิคนละ 200-300 บาท แต่ต้องนำบัตรไปใช้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
นางสรินทิพย์ พุ่มพวง เจ้าของร้านค้าแผงลอยสี่แยกตลาดไผ่ท่าโพกลาง, นายสุทน ชูจิตร เจ้าของร้านจิราวรรณการค้า, นางศรีรัตน์ เนตรภู่ เจ้าของร้านเนตรภู่, นายเกรียงไกร ปั้นน้อย เจ้าของร้านแสงดาว ตัวแทนร้านค้าของตำบลไผ่ท่าโพ ที่ล้วนเป็นร้านขายของชำของกิน-ของใช้ที่อยู่คู่กับชุมชนมาหลายสิบปี ต่างกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตรมาทาบทามเชิญชวนเข้าร่วมโครงการให้เป็นร้านค้าที่จะได้รับเครื่องรูดบัตร EDC เพื่อจะเป็นจุดจำหน่ายสินค้าและให้บริการประชาชน อีกทั้งจะได้ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในชุมชน
ซึ่งร้านค้าในตลาดของตำบลไผ่ท่าโพที่มีความพร้อมเป็นร้านขายของชำขายของโชวห่วยเกือบ 20 ร้านค้า ต่างแสดงเจตนาและขอสมัคร แต่ปรากฏว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 4-5 เดือนแล้วก็ยังไม่ได้รับเครื่องรูดบัตรเพื่อบริการลูกค้าที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือ “บัตรคนจน”
นายเกรียงไกร ปั้นน้อย เจ้าของร้านแสงดาว เปิดเผยว่า ร้านของตนอยู่กลางหมู่บ้านขายสินค้าของกิน-ของใช้เกือบทุกอย่างที่เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเครื่องรูดบัตร EDC คนจน คนชรา คนพิการ ที่จะเอาบัตรมาใช้เพื่อซื้อสินค้าก็ไม่สามารถให้บริการได้
ทางออกของชาวบ้านก็ใช้วิธีรวมตัวกันขอนั่งรถกระบะของเพื่อนบ้านเข้าไปในตลาดอำเภอตะพานหิน ซึ่งห่างจากตำบลไผ่ท่าโพประมาณ 30 กม. ซึ่งก็ต้องเฉลี่ยเงินลงขันเป็นค่าน้ำมันช่วยเจ้าของรถคนละ 20-30 บาท บัตรที่มีสวัสดิการ 300 บาท แทนที่จะได้ใช้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ต้องมาเสียค่าเดินทางเข้าไปในเมือง
เช่นเดียวกับ น.ส.นุจรี มณีภักดี อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 3 บ้านไผ่ท่าโพใต้ ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร หนึ่งในผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ(บัตรคนจน) เปิดเผยว่า มีบัตรสวัสดิการเหมือนกัน แต่ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าจากร้านค้าหรือในชุมชนใกล้บ้านได้ ทั้งๆ ที่ใจจริงก็อยากอุดหนุนร้านค้าที่อยู่ข้างบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากร้านค้าไม่มีเครื่องรูดบัตร
ทางออกก็คือ เดือนหนึ่งหรือนานๆ ครั้งก็จะรวมตัวกัน 15-20 คนช่วยกันเฉลี่ยค่าน้ำมันเติมรถกระบะเพื่อนบ้านคนละ 20-30 บาทเพื่อไปซื้อของในตลาด อ.ตะพานหิน ซึ่งเป็นร้านที่มีเครื่องรับรูดบัตร จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้รับความสะดวกจากการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ด้วย
