ใช่! ไม่มีใครเถียงว่า...รัฐต้องทำเพื่อคนทั้งชาติ!
แต่ที่ใช่มากกว่านั้น-คือ-รัฐที่ดีต้องคิดและทำเพื่อ “คนส่วนใหญ่ที่ด้อยโอกาส” เป็นหลัก!
“บิ๊กตู่” พูดหลายครั้งว่า “ต้องทำให้เมืองสวยเป็นระเบียบเรียบร้อย” ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยประทับใจ และมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ไม่ผิดทั้งหมด” และ “ไม่ถูกทั้งหมด” ที่ “บิ๊กตู่” จะคิดจะพูดเช่นนั้น ด้วยวันนี้ไทยติดอันดับต้นๆ ประเทศน่าเที่ยวของโลกแล้ว อีกทั้งการท่องเที่ยวก็ทำรายได้ในลำดับต้นๆ ของชาติไทยไปแล้ว
“บิ๊กตู่” ต้องไม่เพียงใช้กลไกรัฐทำแค่เมืองสวย-สะอาด-เรียบร้อยและมิใช่ปล่อยให้คนร่ำรวยอยู่แล้ว ได้ตักตวงผลประโยชน์มหาศาลเป็นหลัก
ทว่า... “บิ๊กตู่” ต้องคิดและต้องใช้ฝีมือทำให้คนจน-ผู้มีรายได้น้อย ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น ทั้งสถานที่ทำมาค้าขายและการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐ เพื่อคนด้อยโอกาสในชาติไทย จะได้มีความเป็นอยู่ดีมีคุณภาพมากขึ้นไงล่ะ
มิใช่กวาดล้างร้านค้าแผงลอยไปทุกหนแห่งทำให้ผู้มีรายได้น้อย ที่ขายสินค้าและอาหารราคาถูกไร้ที่ทำกิน จนต้องกู้ยืมเงินเขาไปเช่าพื้นที่ในห้างใหญ่ๆ เพื่อค้าขายสินค้าและอาหารในราคาที่แพงขึ้น ซึ่งถ้าค้าขายไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ต้องหมดตัวเป็นหนี้สินทับถมเพิ่มขึ้นอีก
ในด้านผู้บริโภค ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยที่ต้องกระเหม็ดกระแหม่กับการซื้อข้าวของและอาหารราคาถูก ก็ไม่มีทางเลือก ต้องไปใช้บริการจากร้านค้าปลีกชื่อดัง ของเจ้าสัวนับหมื่นร้านทั่วไทยแทน
แน่นอน..มิใช่ความผิดของเจ้าสัวเหล่านั้น หากแต่ทุกรัฐบาลละเลยต่อการบริหารชาติ ให้กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม จึงเกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นนั่นเอง
“บิ๊กตู่” ต้องรู้นะว่า ผู้มีรายได้น้อยนั้น รายได้จากการขายสินค้าและอาหารราคาถูกเพียงน้อยนิด มีค่าต่อการหล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขาให้อยู่รอดได้แบบวันต่อวันเท่านั้น เมื่อไร้ที่ทำกินย่อมส่งผลต่อความอยู่รอดในทันที
พวกเขาไม่ปล่อยให้ครอบครัวต้องอดตายแน่นอน! แต่เพราะด้อยการศึกษาและมีเงินทุนเพียงน้อยนิด หากหมดตัวด้วยรัฐมองข้าม-ละเลย-ไม่เหลียวแลพวกเขาเท่าที่ควรบ้างก็ต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างรายวัน บ้างอาจต้องเอาตัวรอดผิดๆ ด้วยการค้ายาเสพติด ก่อคดีลักขโมยปล้นจี้ชิงทรัพย์ ฯลฯ ก่อนจะจบชีวิตไร้อนาคตในคุก หรือถูกวิสามัญ ฯลฯ
เรื่องจริงเช่นนี้เกิดขึ้นใน “สังคมมือใครยาวสาวได้สาวเอา” หรือ “สังคมคนกินคน” มาแล้วมากมาย!
“บิ๊กตู่” ไม่ควรเปิดช่องให้ผู้คนตำหนิได้ว่า รัฐบาล “บิ๊กตู่” ไม่ต่างจากรัฐบาลทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ที่ทำให้ไทยเป็นสังคมยึด “กำไรสูงสุดเป็นสรณะ” จนไร้คุณธรรมและความเอื้ออาทรเป็น “สังคมรวยกระจุก-จนกระจาย” มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสังคมที่เหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ ระหว่างคนส่วนน้อยกับคนส่วนใหญ่ ที่ถ่างกว้างมากขึ้นจนเป็นภัยต่อชาติ
อีกทั้ง “บิ๊กตู่” ก็รู้อยู่แก่ใจว่า ผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของชาตินั้น ถูก “เหลี่ยม” กับพวกพยายาม “ซื้อตัว-ซื้อใจ” ด้วยวิธีการต่างๆ ให้สนับสนุนทางการเมืองพวกตน จน “เหลี่ยม” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ยึดอำนาจรัฐและโกงชาติไทยได้นานกว่า 10 ปี
จน “เหลี่ยม” เหิมเกริมถึงขนาดบังอาจปฏิบัติการมุ่งโค่นล้มสถาบันสำคัญของชาติไทยอีกด้วย!
“บิ๊กตู่” รู้อยู่แล้วว่า “คน-สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด” โดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อยและยากจน!
แต่กลไกรัฐบางส่วนกระทำการอย่างเถรตรง! จนทำให้สิ่งที่ “บิ๊กตู่” พูดปาวๆ ว่า รักคนจน-จะช่วยคนจนนั้น ไม่ปรากฏเป็นจริงขึ้นได้ในหลายๆ เรื่อง ดังเช่น การกวาดล้างแผงลอยทั่วกรุงเทพฯ เกือบ 300 พื้นที่เพียงเพื่อให้ “เมืองสวยฯ” แต่ทำให้คนจนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น
คนมาก่อนหรือเมืองมาก่อน? คนสำคัญกว่าหรือเมืองสำคัญกว่า?
การทำเมืองให้สวยฯ-ต้องทำ! คนเดินทางเท้าสะดวกสบาย-ก็ต้องทำ! แต่ยังมีอีก 2 หลักการสำคัญที่ต้องทำและทำไปพร้อมๆ กันได้ด้วยนั่นคือ
รัฐบาล “บิ๊กตู่” สามารถออกแบบ-จัดวาง-จัดระเบียบ ใช้ศิลปะออกแบบแผงลอยริมถนน ให้เป็นสถานที่ขายของที่มีเสน่ห์มีชีวิตชีวา บนวิถีแห่งความเป็นไทย เสริมการท่องเที่ยวไทยได้...จริงไหม?
ประเทศไทยมิใช่หรือที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกยกให้เป็นเมือง “สตรีทฟูด” ติดอันดับโลก ทั้งคนไทยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินท่องสตรีทฟูดสลอนไปหมดทั้งกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ภูเก็ต-ขอนแก่น ฯลฯ
การกวาดล้างแผงลอยในกรุงเทพฯ นั้น ผู้คนอดคิดไม่ได้ว่า ไปเอื้อประโยชน์ให้ร้านค้าย่อยชื่อดังนับหมื่นร้าน ที่ต่างชาติหุ้นกับคนไทยเพียงไม่กี่คน อีกทั้งเป็นการผลักให้ผู้ค้าย่อยต้องไปเปิดร้านค้าในหลายห้างของคนร่ำรวย ที่ยังมีพื้นที่ว่างโล่งไร้คนเช่าหรือเปล่า..?
ทั้งนี้เพราะทั้งตัว “บิ๊กตู่” และคนในรัฐบาลนี้ สนิทสนมกับ “เจ้าสัว” หลายคนมิใช่หรือ?
“บิ๊กตู่” รู้อยู่แล้วว่า เมืองใหญ่น้อยในประเทศท่องเที่ยวทั่วโลก ล้วนมีทั้งตลาดแผงลอยริมถนน ตลาดนัด ตลาดอัตลักษณ์ ตลาดสารพัด ฯลฯ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติทั้งสิ้น
รัฐบาลที่ดีมิใช่อ้างแค่ทำตามกฎหมาย แต่ต้องปรับแก้กฎหมายที่ไม่ชอบธรรม-สร้างกฎหมายให้ถูกต้องชอบธรรม ที่สำคัญรัฐบาลต้องยึดหลักใช้อำนาจรัฐเพื่อคนส่วนใหญ่เป็นหลัก
งานนี้...ต้องได้ทั้งเมืองสวย และคนจนต้องได้ทำกินด้วย ถึงจะเชื่อได้ว่า “บิ๊กตู่-รักคนจนจริง!!!”
แต่ที่ใช่มากกว่านั้น-คือ-รัฐที่ดีต้องคิดและทำเพื่อ “คนส่วนใหญ่ที่ด้อยโอกาส” เป็นหลัก!
“บิ๊กตู่” พูดหลายครั้งว่า “ต้องทำให้เมืองสวยเป็นระเบียบเรียบร้อย” ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยประทับใจ และมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ไม่ผิดทั้งหมด” และ “ไม่ถูกทั้งหมด” ที่ “บิ๊กตู่” จะคิดจะพูดเช่นนั้น ด้วยวันนี้ไทยติดอันดับต้นๆ ประเทศน่าเที่ยวของโลกแล้ว อีกทั้งการท่องเที่ยวก็ทำรายได้ในลำดับต้นๆ ของชาติไทยไปแล้ว
“บิ๊กตู่” ต้องไม่เพียงใช้กลไกรัฐทำแค่เมืองสวย-สะอาด-เรียบร้อยและมิใช่ปล่อยให้คนร่ำรวยอยู่แล้ว ได้ตักตวงผลประโยชน์มหาศาลเป็นหลัก
ทว่า... “บิ๊กตู่” ต้องคิดและต้องใช้ฝีมือทำให้คนจน-ผู้มีรายได้น้อย ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น ทั้งสถานที่ทำมาค้าขายและการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐ เพื่อคนด้อยโอกาสในชาติไทย จะได้มีความเป็นอยู่ดีมีคุณภาพมากขึ้นไงล่ะ
มิใช่กวาดล้างร้านค้าแผงลอยไปทุกหนแห่งทำให้ผู้มีรายได้น้อย ที่ขายสินค้าและอาหารราคาถูกไร้ที่ทำกิน จนต้องกู้ยืมเงินเขาไปเช่าพื้นที่ในห้างใหญ่ๆ เพื่อค้าขายสินค้าและอาหารในราคาที่แพงขึ้น ซึ่งถ้าค้าขายไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ต้องหมดตัวเป็นหนี้สินทับถมเพิ่มขึ้นอีก
ในด้านผู้บริโภค ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยที่ต้องกระเหม็ดกระแหม่กับการซื้อข้าวของและอาหารราคาถูก ก็ไม่มีทางเลือก ต้องไปใช้บริการจากร้านค้าปลีกชื่อดัง ของเจ้าสัวนับหมื่นร้านทั่วไทยแทน
แน่นอน..มิใช่ความผิดของเจ้าสัวเหล่านั้น หากแต่ทุกรัฐบาลละเลยต่อการบริหารชาติ ให้กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม จึงเกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นนั่นเอง
“บิ๊กตู่” ต้องรู้นะว่า ผู้มีรายได้น้อยนั้น รายได้จากการขายสินค้าและอาหารราคาถูกเพียงน้อยนิด มีค่าต่อการหล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขาให้อยู่รอดได้แบบวันต่อวันเท่านั้น เมื่อไร้ที่ทำกินย่อมส่งผลต่อความอยู่รอดในทันที
พวกเขาไม่ปล่อยให้ครอบครัวต้องอดตายแน่นอน! แต่เพราะด้อยการศึกษาและมีเงินทุนเพียงน้อยนิด หากหมดตัวด้วยรัฐมองข้าม-ละเลย-ไม่เหลียวแลพวกเขาเท่าที่ควรบ้างก็ต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างรายวัน บ้างอาจต้องเอาตัวรอดผิดๆ ด้วยการค้ายาเสพติด ก่อคดีลักขโมยปล้นจี้ชิงทรัพย์ ฯลฯ ก่อนจะจบชีวิตไร้อนาคตในคุก หรือถูกวิสามัญ ฯลฯ
เรื่องจริงเช่นนี้เกิดขึ้นใน “สังคมมือใครยาวสาวได้สาวเอา” หรือ “สังคมคนกินคน” มาแล้วมากมาย!
“บิ๊กตู่” ไม่ควรเปิดช่องให้ผู้คนตำหนิได้ว่า รัฐบาล “บิ๊กตู่” ไม่ต่างจากรัฐบาลทุนสามานย์ “เหลี่ยม” ที่ทำให้ไทยเป็นสังคมยึด “กำไรสูงสุดเป็นสรณะ” จนไร้คุณธรรมและความเอื้ออาทรเป็น “สังคมรวยกระจุก-จนกระจาย” มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสังคมที่เหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ ระหว่างคนส่วนน้อยกับคนส่วนใหญ่ ที่ถ่างกว้างมากขึ้นจนเป็นภัยต่อชาติ
อีกทั้ง “บิ๊กตู่” ก็รู้อยู่แก่ใจว่า ผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของชาตินั้น ถูก “เหลี่ยม” กับพวกพยายาม “ซื้อตัว-ซื้อใจ” ด้วยวิธีการต่างๆ ให้สนับสนุนทางการเมืองพวกตน จน “เหลี่ยม” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ยึดอำนาจรัฐและโกงชาติไทยได้นานกว่า 10 ปี
จน “เหลี่ยม” เหิมเกริมถึงขนาดบังอาจปฏิบัติการมุ่งโค่นล้มสถาบันสำคัญของชาติไทยอีกด้วย!
“บิ๊กตู่” รู้อยู่แล้วว่า “คน-สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด” โดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ที่มีรายได้น้อยและยากจน!
แต่กลไกรัฐบางส่วนกระทำการอย่างเถรตรง! จนทำให้สิ่งที่ “บิ๊กตู่” พูดปาวๆ ว่า รักคนจน-จะช่วยคนจนนั้น ไม่ปรากฏเป็นจริงขึ้นได้ในหลายๆ เรื่อง ดังเช่น การกวาดล้างแผงลอยทั่วกรุงเทพฯ เกือบ 300 พื้นที่เพียงเพื่อให้ “เมืองสวยฯ” แต่ทำให้คนจนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น
คนมาก่อนหรือเมืองมาก่อน? คนสำคัญกว่าหรือเมืองสำคัญกว่า?
การทำเมืองให้สวยฯ-ต้องทำ! คนเดินทางเท้าสะดวกสบาย-ก็ต้องทำ! แต่ยังมีอีก 2 หลักการสำคัญที่ต้องทำและทำไปพร้อมๆ กันได้ด้วยนั่นคือ
รัฐบาล “บิ๊กตู่” สามารถออกแบบ-จัดวาง-จัดระเบียบ ใช้ศิลปะออกแบบแผงลอยริมถนน ให้เป็นสถานที่ขายของที่มีเสน่ห์มีชีวิตชีวา บนวิถีแห่งความเป็นไทย เสริมการท่องเที่ยวไทยได้...จริงไหม?
ประเทศไทยมิใช่หรือที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกยกให้เป็นเมือง “สตรีทฟูด” ติดอันดับโลก ทั้งคนไทยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินท่องสตรีทฟูดสลอนไปหมดทั้งกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-ภูเก็ต-ขอนแก่น ฯลฯ
การกวาดล้างแผงลอยในกรุงเทพฯ นั้น ผู้คนอดคิดไม่ได้ว่า ไปเอื้อประโยชน์ให้ร้านค้าย่อยชื่อดังนับหมื่นร้าน ที่ต่างชาติหุ้นกับคนไทยเพียงไม่กี่คน อีกทั้งเป็นการผลักให้ผู้ค้าย่อยต้องไปเปิดร้านค้าในหลายห้างของคนร่ำรวย ที่ยังมีพื้นที่ว่างโล่งไร้คนเช่าหรือเปล่า..?
ทั้งนี้เพราะทั้งตัว “บิ๊กตู่” และคนในรัฐบาลนี้ สนิทสนมกับ “เจ้าสัว” หลายคนมิใช่หรือ?
“บิ๊กตู่” รู้อยู่แล้วว่า เมืองใหญ่น้อยในประเทศท่องเที่ยวทั่วโลก ล้วนมีทั้งตลาดแผงลอยริมถนน ตลาดนัด ตลาดอัตลักษณ์ ตลาดสารพัด ฯลฯ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างชาติทั้งสิ้น
รัฐบาลที่ดีมิใช่อ้างแค่ทำตามกฎหมาย แต่ต้องปรับแก้กฎหมายที่ไม่ชอบธรรม-สร้างกฎหมายให้ถูกต้องชอบธรรม ที่สำคัญรัฐบาลต้องยึดหลักใช้อำนาจรัฐเพื่อคนส่วนใหญ่เป็นหลัก
งานนี้...ต้องได้ทั้งเมืองสวย และคนจนต้องได้ทำกินด้วย ถึงจะเชื่อได้ว่า “บิ๊กตู่-รักคนจนจริง!!!”