อำมหิตเกิน..พระครูดังแจ้ง ตร.ล่าคนวางยาเบื่อหมาวัด หลังโดนยัดข้อหาตัดต้นมะค่าในวัดมาแล้ว

ลำปาง - “พระครูวอ-เจ้าอาวาสวัดม่อนพระยาแช่” ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ-ขึ้นโรงพักแจ้งตำรวจล่ามือมืดวางยาเบื่อ “เจ้าขาว” หมาวัดจนน้ำลายฟูมปาก ดิ้นทุรนทุราย ต้องให้โยมนำส่ง รพ.สัตว์ฯ กลางดึก หลังเคยถูกผู้นำชุมชน-นักข่าวกล่าวหาตัดต้นมะค่าใกล้ล้มทับผิดกฎหมาย แถมมีคนอ้างตัวเป็น “อัยการฯ” ขู่อีก



วันนี้ (22 พ.ย.) พระครูวอ (วอ นุ่มเกลี้ยง) เจ้าอาวาสวัดม่อนพระยาแช่ ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง ก่อนที่จะเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ถนัดชัย เครือวัง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้สอบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิด กรณีเจ้าขาว สุนัขพันธุ์ไทย เพศเมีย อายุประมาณ 3 ปี ที่เลี้ยงไว้ในวัดถูกวางยา

พระครูวอเล่าว่า ประมาณ 3 ทุ่มเมื่อคืน (21 พ.ย.) ตนได้ยินเสียงสุนัขหลายตัวเห่า และวิ่งไปมาเหมือนกับเห็นอะไรสักอย่าง จึงได้เดินออกจากกุฏิเอาไฟฉายมาส่องดูก็ไม่เห็นอะไรจึงกลับเข้าไปนอน จนกระทั่งเช้าออกมาดูก็พบว่าเจ้าขาวนอนดิ้นทุรนทุราย ลิ้นยาว น้ำลายฟูมปาก ดิ้นตะเกียกตะกายอยู่หน้ากุฏิเลือดออกปาก ขับถ่ายไม่รู้ตัว

ซึ่งตนตกใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรเนื่องจากในวัดมีเพียงตนเองคนเดียว จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งโยมเข้ามาดูและรับนำตัวเจ้าขาวขึ้นรถปิกอัพไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยเจ้าขาว ยังคงดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าเวทนาอยู่บนหลังรถปิกอัพระหว่างนำตัวจะไปรักษาที่คลินิกรักษาสัตว์

ทันทีที่นำเจ้าขาวไปถึงโรงพยาบาลสัตว์ “สบายใจสัตวแพทย์” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเขลางค์ เขตเทศบาลนครลำปาง สัตวแพทย์ได้มัดเจ้าขาวเพื่อไม่ให้ดิ้นก่อนที่จะตรวจดูอาการ

เบื้องต้นสัตวแพทย์สันนิษฐานว่าเจ้าขาวน่าจะโดนทุบหัวเพราะมีร่องรอยบาดเจ็บ กระทบถึงสมอง และโดนสารพิษคล้ายกับกินยาเบื่อหนูเข้าไป แต่ด้วยเวลานานเกิน 4 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงโรงพยาบาลสัตว์ ทางสัตวแพทย์จึงไม่สามารถล้างท้องได้ ทำได้แต่ฉีดยาต้านยาเบื่อหนู ให้น้ำเกลือ ยาลดไข้ ยากันชักไปก่อน ซึ่งเจ้าขาวก็ยังคงนอนหลับตา แต่มีอาการชัก และดิ้นเป็นระยะระหว่างที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล

หลังจากนั้นตนก็ไปร้องทุกข์และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและจะได้เรียกบุคคลที่ต้องสงสัยมาสอบปากคำต่อไป

พระครูวอเล่าให้ฟังอีกว่า ไม่ทราบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาตนได้ว่าจ้างให้คนมาตัดต้นมะค่าที่จะล้มทับศาลาพระพุทธรูปออก แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ ผู้นำหมู่บ้าน พานักข่าวเข้ามาทำข่าวกล่าวหาว่าตนกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ เพราะตัดไม้โดยไม่ขออนุญาต แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้สรุปเรื่องแล้วว่าตนทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย

แต่ก็ยังมีการนำไปลงข่าวจนเกิดภาพลบต่อเจ้าอาวาส และวัดเป็นอย่างมาก จนตัวแทนวัดต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนและร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น

พระครูวอยืนยันว่าได้เข้ามาบูรณะวัดตั้งแต่ปี 2522 ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร จึงคิดว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะจบแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้มาพบตน และบอกว่าผู้ใหญ่บ้านให้เอาเบอร์โทรศัพท์ของอัยการสิโรจน์มาให้ ตนจึงโทรศัพท์กลับไปตามเบอร์ที่ได้มา และได้มีการสนทนากัน

โดยผู้ที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์อ้างตัวเป็นอัยการสูงสุด ดูแลคดีที่เจ้าอาวาสถูกแจ้งความเกี่ยวกับการตัดไม้ในวัด และกำลังจะถูกส่งตัวฟ้องศาล ซึ่งจะต้องถูกจำคุก 5 ปี หากต้องการให้ดำเนินการให้ต้องเตรียมเงินไว้ 80,000 บาท พร้อมเอกสาร ส่วนจะให้นำเงินให้ที่ไหนจะนัดเป็นเอกสารมาอีกครั้ง

จากนั้นตนจึงได้โทรศัพท์บอกโยมที่รู้จัก ซึ่งโยมก็ได้ติดต่อกลับไปสอบถามที่หมายเลขโทรศัพท์เดิมก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน แต่พอถามว่าอยู่สำนักงานที่ไหนจะได้เข้าไปคุยรายละเอียดด้วย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อหมายเลขเดิมได้อีกเลย