xs
xsm
sm
md
lg

ไม่จบ ศรัทธาแจ้งจับสื่อ ขรก.ผู้นำท้องถิ่นตีข่าวพระครูดังลำปางตัดไม้มะค่าในวัดผิดกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลำปาง - ศรัทธา “วัดม่อนพระยาแช่” หอบคลิป ภาพถ่าย เอกสารเข้าร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรมลำปาง ก่อนขึ้นโรงพักแจ้งความซ้ำ ดำเนินคดีสื่อ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่กระพือข่าวอ้างวัดตัดต้นมะค่าผิดกฎหมาย ทั้งที่วัดมีโฉนด จนเจ้าอาวาสหลั่งน้ำตาร่ำไห้

รายงานความคืบหน้ากรณีพระครูวอ อติธัมโม เจ้าอาวาสวัดม่อนพระยาแช่ ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง เขตวนอุทยานม่อนพระยาแช่ เครียดถึงขั้นร่ำไห้ เนื่องจากผู้นำท้องที่พาเจ้าหน้าที่ สื่อบางสำนัก เข้าตรวจสอบการตัดกิ่งไม้มะค่า ที่เอนจะทับศาลาพระพุทธรูป แต่คนตัดกลับตัดเหลือแต่ตอ พร้อมกับตีข่าวว่า เจ้าอาวาสวัดทำผิดกฎหมาย

อ่านเรื่องประกอบใน
เครียด..เจ้าอาวาสวัดดังลำปางถึงกับร่ำไห้ ถูกสื่อตีข่าวตัดไม้มะค่าในวัดผิดกฎหมาย



ล่าสุด นางมนันยา ปินตาสี ข้าราชการท้องถิ่น พร้อมด้วยสมาชิกตัวแทนกลุ่ม We love the king นครลำปาง และชมรมเฮาฮักม่อนพระยาแช่ ได้นำคลิปวีดีโอ ภาพถ่าย และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อการเสนอข่าวของสำนักข่าวหัวสี และนักข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับดังหล่าว เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสมของบุคคลรวม 3 คน คือ นักข่าวสังกัดสำนักข่าวหัวสีที่นำเสนอข่าวดังกล่าวผ่านสื่อออนไลน์ส่วนตัว หนังสือพิมพ์ ข้าราชการผู้ให้ข่าว และผู้นำท้องที่อีกหนึ่งคน

โดยหนังสือร้องทุกข์ได้ระบุความไม่เหมาะสมเป็นรายบุคคล เริ่มจากนักข่าวสังกัด นสพ.หัวสี พร้อมทีมนักข่าวของสำนักอื่นๆ และเจ้าหน้าที่รัฐที่พูดจาชี้นำให้เจ้าอาวาสเป็นผู้กระทำผิดว่า “หลวงพ่อเจ้าอาวาสทำผิด ทั้งตัดต้นไม้ และไม่แจ้งคณะกรรมการวัด รวมถึงไม่แจ้งชาวบ้าน ซึ่งในความเป็นจริงการตัดต้นมะค่าในวัดม่อนพระยาแช่ ซึ่งมีโฉนดที่ดินถูกต้อง เจ้าอาวาสสามารถกระทำได้โดยไม่มีความผิด ขณะที่ จนท.กรมป่าไม้ (ลำปาง) ได้ยืนยันแล้วว่า ไม่มีความผิด ทำให้เจ้าอาวาส และวัดเกิดความเสียหายและเสียชื่อเสียง จากการที่หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวนำไปเสนอข่าว

การกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความแตกแยกระหว่างวัดกับชาวบ้าน โดยนำเสนอข่าวว่าเจ้าอาวาสทำผิด ชาวบ้านไม่พอใจ หรือมีชาวบ้านแจ้งให้มาทำข่าว ซึ่งทำให้วัดกับชาวบ้านเกิดความขัดแย้ง แตกแยกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

โดยเหตุการณ์ทั้ง 2 ประเด็นนี้มีการนำเสนอข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ทำให้บุคคลที่ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงคิดว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสทำผิด

ส่วนข้าราชการรายหนึ่งที่ให้ข้อมูล หรือให้สัมภาษณ์นักข่าว ถือว่าให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ คือ ระบุว่าการตัดต้นไม้มะค่าในวัดเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดย จนท.กล่าวว่า “ต้องมีการประชุมกรรมการวัด แล้วส่งเรื่องให้ ทสจ.ก่อนที่จะทำการตัด” ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากการตัดต้นมะค่าในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิสามารถทำได้ แต่ไม่ได้เคลื่อนย้ายออกนอกวัด เจ้าของที่ดินคือ เจ้าอาวาสดำเนินการได้ไม่ผิดกฎหมาย

ดังนั้น กรณีของข้าราชการคนดังกล่าวจึงเป็นการให้ขอมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เจ้าอาวาสเสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกดูถูกจากบุคคลภายนอก ทั้งๆ ที่ข้าราชการคนดังกล่าวเป็นข้าราชการระดับสูง ควรจะมีความรู้ที่ถูกต้อง

ส่วนผู้นำท้องที่นายหนึ่งยังให้ข้อมูลต่อนักข่าวด้วยว่า การที่ทางวัดจะตัดต้นไม้ที่ชาวบ้านช่วยกันปลูก ต้องแจ้งคณะกรรมการวัดให้ทราบเสียก่อนนั้น ในความเป็นจริง เจ้าอาวาสสามารถดำเนินการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย การกระทำของผู้นำท้องที่รายนี้ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างวัดกับชาวบ้าน ทำให้วัดเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียง ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเข้าใจผิดต่อเจ้าอาวาส

แหล่งข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า หลังจากยื่นเรื่องต่อศูนย์ดำรงธรรมฯแล้ว วันต่อมา (5 ต.ค.) ทางกลุ่มฯ ยังได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่อง และให้ผู้เสียหายนำหลักฐานอื่นๆ หากมีส่งเพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบในสำนวนอีกครั้ง

ตัวแทนกลุ่มฯ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่สมควรเกิดขึ้นเลย วัดแห่งนี้ได้พัฒนาดีขึ้นจากที่ไม่เคยมีใครเหลียวแล ก็เพราะท่านเจ้าอาวาส เมื่อวัดเริ่มดีขึ้น พัฒนาขึ้น ก็มีพวกที่ต้องการหาประโยชน์ อยากเข้ามาควบคุมวัดเสียเอง โดยไม่คิดจะเข้ามาช่วยพัฒนา แต่กลับมาคอยจับผิดทั้งพระ ทั้งฆารวาสที่เข้ามาช่วยกันพัฒนาวัดแห่งนี้ด้วยความเสียสละ นอกจากนี้ ยังคอยยุแหย่สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นตลอดเวลา

ซึ่งทางกลุ่มจิตอาสาเห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อเห็นท่านเจ้าอาวาสทุกข์ใจ และโทษตัวเองว่า ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลคนตัดต้นไม้ให้ดีจนเกิดเรื่องขึ้น และก็ยังขอโทษทุกคนด้วย ก็ยิ่งสงสารท่านมาก ส่วนกลุ่มคนที่ช่วยกันกระพือข่าวจนวัดได้รับความเสียหาย เมื่อรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง และเจ้าอาวาสไม่ผิด ก็ยังไม่เคยคิดจะเข้ามาขอโทษ หรือแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปแต่อย่างใด




กำลังโหลดความคิดเห็น