xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรเมืองน้ำดำเฮ เขื่อนลำปาวปล่อยน้ำทำนาแก้ปัญหาภัยแล้งแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ชาวนาเมืองน้ำดำเฮ เขื่อนลำปาวดีเดย์ปล่อยน้ำให้ทำนาตั้งแต่ 28 มิ.ย.นี้ หลังปิดการส่งน้ำมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ขณะที่กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามดีใจพ้นวิกฤต จะได้มีน้ำเปลี่ยนถ่ายในบ่อกุ้ง ขณะที่ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์แนะส่วนราชการส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพราะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างมูลค่ามหาศาล

ที่ห้องประชุมศาลาร่มโพธิ์นุกูลทองทวี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) โดยมีนายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา พร้อมด้วยส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกร กลุ่มผู้ใช้น้ำเหนือเขื่อน-ใต้เขื่อนลำปาว และเขตลุ่มแม่น้ำลำปาว แม่น้ำชี จำนวนกว่า 200 คนร่วมประชุม

นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ แต่การที่จะบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพนั้น ต้องได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC : Joint Management Committee for Irrigation ประกอบด้วยบุคลากรจาก 4 ส่วน คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนเกษตรกรผู้ใช้น้ำ และตัวแทนกรมชลประทาน เพื่อให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำ

ทั้งด้านการส่งน้ำและการบำรุงรักษาอาคารชลประทาน ที่จะทำให้เกิดการจัดสรรน้ำอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม จ.กาฬสินธุ์มีเขื่อนลำปาวเป็นต้นน้ำสำคัญ เอื้อประโยชน์ด้านการอุปโภคบริโภค การเกษตร การประมง

โดยมีพื้นที่ทำนาปรังกว่า 2 แสนไร่ พื้นที่ประมงเลี้ยงกุ้งก้ามกรามกว่า 2 พันไร่ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อปีเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าบางช่วงมีปัญหาการขาดแคลนน้ำ เป็นสาเหตุให้พืชผลและบ่อกุ้งได้รับความเสียหาย

โดยเฉพาะในฤดูแล้งที่เขื่อนลำปาวทำการปิดน้ำเพื่อซ่อมแซมคูคลอง ดังนั้น การประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) จึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการหาข้อตกลงการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้น้ำ

นายทองเปอร์ ภูนาชัย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามประสบปัญหามากในช่วงเขื่อนลำปาวปิดการส่งน้ำจึงไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่ายในบ่อกุ้ง ประกอบกับอากาศวิปริตที่บางวันร้อนบางวันฝนตก กุ้งปรับตัวไม่ทันเกิดการน็อกตาย สร้างความเสียหายมูลค่ารวมปีละหลายสิบล้านบาท

จึงเรียกร้องให้โครงการบำรุงและรักษาเขื่อนลำปาวเร่งเปิดน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบ เพราะการเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักของชาว อ.ยางตลาด และ อ.เมืองกาฬสินธุ์ หลายตำบล แต่กลับได้รับความเสียหายซ้ำซาก อย่างช่วงที่ผ่านมากุ้งน็อกตายจำนวนมาก จึงเรียกร้องให้เร่งทำการเปิดน้ำในเร็ววัน และทบทวนห้วงเวลาปิดเปิดน้ำซ่อมแซมคูคลองให้สั้นลงด้วย

ด้านนายสุริยัน ศรีสุพรรณ ผญบ.บ้านกุดฆ้องชัย หมู่ 8 ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า ถึงแม้จะเข้าสู่ฤดูฝน 2 เดือนแต่ฝนยังตกไม่ทั่วถึง ชาวนายังไม่มีน้ำทำนา ขณะที่ชาวนาในกลุ่มที่อยู่ติดลำชีต้องลงทุนสูบน้ำเข้าแปลงนา ทำให้สิ้นเปลืองต้นทุนในการทำนามากขึ้น จึงมีมติร่วมกับเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ทั้งทำนา เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา เสนอให้โครงการบำรุงและรักษาเขื่อนลำปาวย่นระยะเวลาในการปล่อยน้ำให้เร็วขึ้น

ซึ่งปีที่ผ่านมาเปิดวันที่ 4 กรกฎาคม ปีนี้ให้เลื่อนมาเป็นวันที่ 28 มิถุนายนนี้ เพื่อที่จะช่วยให้ชาวนาไม่เสียโอกาสในการประกอบอาชีพ ซึ่งถ้าต้นข้าวมีน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอ ก็จะเจริญงอกงาม ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย

นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล กรรมการสภาหอการค้าไทย และประธานหอการค้า จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งคุณภาพดินและแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่พร้อมจะมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ นำความอยู่ดีกินดีมาสู่ประชาชน โดยเฉพาะกุ้งก้ามกรามที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรมายาวนานหลายสิบปี

แต่ขาดการสนับสนุนส่งเสริม ทั้งนี้ หากมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงกุ้งมาประจำในพื้นที่ ให้คำแนะนำปรึกษาอย่างถูกวิธี ก็จะสร้างรายได้อย่างมหาศาลยิ่งขึ้น

นายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวในปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีปริมาณน้ำ 817.10ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 41.27% จากความจุอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.ม. หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ปีนี้มีปริมาณมากกว่า 20.90% ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนนี้เพียงพอต่อการเกษตรกรรมฤดูแล้งปี 61 ทั้งนี้ ยังมั่นใจว่าในฤดูฝนปีนี้ที่ยังเหลืออีก 4 เดือนคาดว่าจะมีมวลน้ำไหลเข้าอ่างอีกเป็นจำนวนมาก

ในส่วนของการเปิดน้ำในฤดูกาลทำนาปีนี้ มีกำหนดเปิดน้ำทั้งคลองฝั่งซ้ายและฝั่งขวาในวันนี้ (28 มิ.ย.) ถึงวันที่ 30 ต.ค.นี้ หลังจากทำการปิดเพื่อซ่อมแซมคูคลองตามปฏิทินปฏิบัติมาตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม ทั้งนี้ ได้ทำการตรวจเช็กและทดสอบระบบการเปิดน้ำเพื่อเตรียมความพร้อม โดยคลองส่งน้ำสายใหญ่จะเต็มระบบประมาณวันที่ 5 กรกฎาคม 2560

“อย่างไรก็ตาม ได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกษตรกรผู้ใช้น้ำ ได้ช่วยกันทำความสะอาดและรักษาคูคลอง เพื่อให้น้ำไหลได้อย่างสะดวก และใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ทั่วถึง และเป็นธรรม” นายฤาชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น