กาฬสินธุ์ - ผลจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน น้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวน้อย กระทบต่ออาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกรามที่เลี้ยงกันมากในกาฬสินธุ์ ที่ต้องลดพื้นที่เลี้ยงลงอีกกว่า 50% และมีแนวโน้มที่สัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งขาดตลาด รายได้สูญหลายสิบล้านบาท
วันนี้ (11 ก.ย.) นายสมาน ภูใบบัง สมาชิกผู้เลี้ยงกุ้งกามกราม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า มีพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามกราม 10 ไร่ เดิมเคยเลี้ยงไร่ละ 1 แสนตัว ผลผลิตพอเลี้ยงครอบครัวและมีเงินทุนเลี้ยงเรื่อยมาหลายปี โดยใช้น้ำจากคลองชลประทานเขื่อนลำปาว
แต่ระยะหลังหรือ 2-3 ปีที่ผ่านมาประสบปัญหาภัยแล้งคุกคาม น้ำไม่เพียงพอ วันไหนอากาศวิปริต ร้อนจัดและมีฝนตกลงมาก็ทำให้กุ้งน็อกตายจำนวนมาก เป็นปัญหาเรื้อรังที่กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามประสบ มีหลายรายขาดทุนซ้ำซากจนต้องล้มเลิกกิจการ โดยหันมาทำนาข้าว
นายสมานกล่าวอีกว่า เนื่องจากตนยึดการเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลัก ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 280-300 บาท ตามระยะทาง ซึ่งถือว่าราคาสูง จึงเป็นสิ่งจูงใจให้เลี้ยงต่อไป แต่เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากภัยแล้งและอากาศวิปริต จึงลดจำนวนเลี้ยงลงเพียงไร่ละ 5 หมื่นตัว
อย่างไรก็ตาม ยังมีเพื่อนสมาชิกผู้เลี้ยงกุ้งหลายรายเลิกกิจการไปเพราะน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการเลี้ยงกุ้งประสบภัยแล้งอันเนื่องจากฝนทิ้งช่วง
จึงทำให้พื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามซึ่งเคยเป็นสัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ลดลงกว่า 50% และมีแนวโน้มขาดตลาด ภาพรวมในพื้นที่ที่เคยมีรายได้จากการจำหน่ายกุ้งก้ามกรามปีละหลายร้อยล้านบาทก็จะหายไปหลายสิบล้านบาทอย่างน่าเสียดาย