กาฬสินธุ์ - สภาพอากาศแห้งแล้งและแดดร้อนจัด เป็นเหตุให้กุ้งก้ามกรามที่จังหวัดกาฬสินธุ์น็อกตายเป็นจำนวนมาก ขาดทุนรายละกว่า 5 หมื่นถึงแสนบาท
จากการติดตามปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่านอกจากจะทำให้เกษตรกรเสียโอกาสในการทำนาแล้ว ยังพบว่าในกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามกำลังได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากกุ้งก้ามกรามเกิดการน็อกตายเพราะอากาศร้อนจัด
นายเขียว ฤทธิ์สุวรรณ อายุ 50 ปี บ้านนาอุดม ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในฤดูกาลนี้ได้เลี้ยงกุ้ง 2 บ่อ ซึ่งยังอยู่ในวัยอนุบาลอายุ 2 เดือน ที่ผ่านมาในช่วงฤดูแล้ง และโครงการชลประทานเขื่อนลำปาวหยุดการส่งน้ำ ก็พยายามประคับประคองและหาวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายแก่กุ้งในบ่อ จนกระทั่งถึงวันนี้ที่สภาพอากาศร้อนจัด
ขณะที่โครงการชลประทานเขื่อนลำปาว ที่ได้เปิดน้ำตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมถึงวันนี้ ระดับน้ำยังไหลน้อย ยังไม่ไหลเข้าบ่อให้เปลี่ยนถ่าย จึงเกิดปัญหากุ้งน็อกตายทั้งบ่อ
สำหรับกุ้งชุดนี้ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นบาท บางรายที่เลี้ยงจำนวนมากก็น็อกตายจำนวนมากถึงเฉลี่ยขาดทุนไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นถึงแสนบาท
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตนและกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งในเขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ และ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้ปฏิบัติตามคำประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดและโครงการชลประทานเขื่อนลำปาวมาโดยตลอด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดจากผลกระทบภัยแล้งและเขื่อนปิดน้ำ
ทั้งชะลอการเลี้ยงกุ้ง ลดพื้นที่และจำนวนกุ้งลง แต่เนื่องจากอากาศวิปริตร้อนจัด กุ้งปรับสภาพไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาน็อกตายซ้ำซาก
จึงอยากเรียกร้องให้ส่วนราชการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามด้วย เนื่องจากกู้เงิน ธ.ก.ส.มาลงทุน จะเลิกกิจการก็ไม่ได้เพราะเป็นอาชีพ และกุ้งก้ามกรามก็เป็นสัตว์เศรษฐกิจของจังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย