ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะกรรมการ EEC ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี แจงข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนเร่งสร้างความเข้าใจต่อชาวบ้านในพื้นที่ ในโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
วันนี้(12 มิ.ย.) นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดชลบุรี (กรอ.จังหวัด) ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ณ โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนการงาน และภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า การทำงานตามยุทธศาสตร์ EEC ต้องรวดเร็วตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง EEC ถือเป็นการต่อยอดมาจาก อีสเทิร์นซีบอร์ด ที่เคยเกิดในภาคตะวันออกโดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ เป็นฐานสะสมการลงทุนและเทคโนโลยี โดย กำหนดเป้าหมายไว้ 3 ระยะ
คือ 1. ระยะสั้น 1 ปี ให้เตรียมพร้อมการพัฒนา 5 โครงการหลัก ได้แก่ การประกาศนโยบายเมืองการบินภาคตะวันออกจัดการประมูลโครงการถไฟความเร็วสูง ส่งเสริมการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าและหุ่นยนต์ พัฒนา 3 ท่าเรือหลัก คือ แหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือสัตหีบ และการพัฒนาเมืองแห่งอนาคต
ส่วนการพัฒนาเพื่อรองรับแผน EEC ได้จัดทำการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินหลัก คือ ดอนเมือง สุวรณภูมิ และ อู่ตะเภา พร้อมกำหนดให้รถไฟรางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือหลักดังกล่าว และกำหนดให้ เขตนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล และการสร้างเมืองใหม่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
อย่างไรก็ตาม EEC จะเป็นฐานการลงทุนขนาดใหญ่ให้ประเทศ สร้างรายได้ให้พร้อมรับที่จะดูแลสังคมสูงวัย และเกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับต้องสร้างความเข้มแข็งให้สอดรับกับสังคมไทย 4.0 และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกรัฐบาลที่จะต้องเดินตามแนวทางนี้
สำหรับเป้าหมายใน ระยะกลาง คือ ประชาชนต้องได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ เกิดการจ้างงานรายได้สูง มี SME บน E-commerce มีธุรกิจบริการจำนวนมากและรายได้สูง มีธุรกิจเกษตรและอาหารเทคโนโลยีสูง มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีเมืองใหม่ที่ทันสมัยสำหรับอนาคต เกิดการลงทุนไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนเป้าหมายในระยะยาว คือ คนไทยทุกระดับมีรายได้สูงขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีสร้างรายได้
นายคณิศ แสงสุพรรณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ในปัจจุบันนั้น ได้มีการออกกฎหมายเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่ดังกล่าวทั้ง 3 จังหวัด และทั้งหมดได้ถูกบรรจุไว้ในแผนงบประมาณแล้ว เชื่อว่าแนวโน้มและท่าทีของต่างชาติพอใจมากกับ EEC
แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นเรื่องการศึกษา ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ยังไม่สอดรับกับมาตรฐานก็ต้องปรับ เนื่องจากพัฒนา EEC จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนด้วย ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน ทั้งทางด้านกฎหมายและสิทธิประโยชน์ต่างๆ
โดยในวันนี้ทางคณะกรรมการฯ มาเพื่อมารับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีความเป็นห่วงในเรื่องชีวิตและความเป็นอยู่ เพราะโครงการที่จะเข้ามาลงทุนนั้นเป็นโครงการขนาดใหญ่ และใช้งบลงทุนมหาศาล ดังนั้นโครงการที่จะเกิดขึ้นก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และที่สำคัญพื้นที่ในการก่อสร้างโครงการต่างๆ นั้นก็ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ หลายๆโครงการมีพื้นที่ไว้แล้ว โดยไม่มีการเวนคืนจากประชาชนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
สำหรับประชาชนในพื้นที่ ที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ไม่มีงานทำ ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดวางแผนในการรองรับเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ส่วนนิสิต นักศึกษานั้น ทางคณะทำงานฯ มีการประสานแผนงานกับทางมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อให้เรียนรู้ในสาขาวิชาดังกล่าว ที่สามารถ เข้าทำงานในโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยไม่ต้องย้ายถิ่นไปทำงานที่อื่น