ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ชาวเรือนแพ รวมทั้งผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำกว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศมาตามนัด รวมตัวยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” ค้านบังคับใช้ พ.ร.บ.เดินเรือฯ ครวญทุกวันนี้เจอสารพัดปัญหาจนบางรายจ่อเลิกเลี้ยงปลากันแล้ว โดนบีบจับ-ปรับซ้ำอีก ส่วนเชียงรายมีแต่ร้านอาหารรุกน้ำกก
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำสายต่างๆ กว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศต่างตบเท้าเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขยายเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 ผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ-ผู้ว่าฯ
โดยที่อุทัยธานี นายพิเชษฐ์ วัสธูป รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังจังหวัดอุทัยธานี ได้เข้ายื่นหนังสือผ่านนายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าฯ อุทัยธานี พร้อมระบุว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชาวแพที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำสะแกกรัง และผู้เลี้ยงปลากระชัง ที่ต้องอาศัยแหล่งน้ำเป็นที่ทำมาหากิน-อยู่อาศัยมากจนพากันวิตกกังวลกันหมดเนื่องจากไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน
ซึ่งในบทบัญญัตินั้นได้ให้ผู้ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสิ่งล่วงล้ำแหล่งน้ำ คือ แม่น้ำ ลำคลอง อ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ ทะเลในน่านน้ำไทย กับกรมเจ้าท่า ไปทำการขึ้นทะเบียนต่อกรมเจ้าท่าภายในวันที่ 22 มิ.ย. 60 ไม่เช่นนั้นอาจจะมีโทษต่างๆ รวมทั้งยังต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายปีทุกปีอีกด้วย ถือเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมากสำหรับเกษตกรที่ประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และทำประมงชายฝั่ง ที่มีฐานะยากจน
ทางสภาเกษตรกรจังหวัดอุทัยธานีจึงอยากให้รัฐบาลขยายเวลาการบังคับใช้ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ออกไปอย่างน้อยอีก 1 ปี เพื่อให้เกษตรกรที่ไม่เคยทราบเรื่องได้มีเวลาปรับตัวและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายนี้ก่อน และหากบังคับใช้แล้วสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรจริง ขอให้ปรับปรุงกฎหมายให้มีความเหมาะสม
วันเดียวกัน นายพรชัย พัฒนศักดิ์ภิญโญ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมตัวแทนผู้เลี้ยงปลากระชังกำแพงเพชร ที่มีอยู่กว่า 2 พันกระชัง เข้ายื่นหนังสือ ชะลอ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ผ่านนางกุลดา พันธ์เตี้ย รองผู้ว่าฯ, นายสนั่น ปานบ้านแพร้ว ประมงจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสุระ จักรศรี อายุ 50 ปี ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ชี้แจงปัญหาที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า กำแพงเพชรมีแม่น้ำปิงไหลผ่าน มีเกษตรกรเลี้ยงปลากระชังจำนวน 178 ราย มีกระชังปลากว่า 2,000 กระชัง ปัจจุบันก็มีปัญหาทั้งต้นทุนอาหารปลาสูง ปลาราคาถูก กำไรไม่มาก ถ้าต้องขึ้นทะเบียน-ชำระค่ากระชังตารางเมตรละ 500 บาท ยิ่งถูกซ้ำเติมหนักขึ้น
เช่นเดียวกับผู้เลี้ยงปลากระชังในลุ่มแม่น้ำปิงประสบปัญหาด้านการเลี้ยงปลากระชังไม่ได้กำไร ต้องลดการเลี้ยงปลาลง บางรายกำลังจะเลิกเลี้ยงเพราะน้ำในแม่น้ำปิงไหลช้า เลี้ยงปลาแล้วตาย ไม่เหมาะกับการเลี้ยงปลากระชัง ส่วนเรื่องการเก็บภาษีเห็นด้วยแต่ก็ไม่ควรเก็บแพงเกินควร เพราะผู้ประกอบการรายย่อยเลี้ยงขายเพื่อพอมีรายได้ยังชีพเท่านั้น
ด้านนายสุรนาท ศิริโชค รักษาการ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา จ.เชียงราย กล่าวว่า กรณีสิ่งปลูกสร้างในเขตน่านน้ำพื้นที่เชียงรายไม่ได้มีมากหรือหนาแน่น จุดที่อาจจะเข้าข่ายส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำกกเขต อ.เมืองเพียงไม่ถึง 10 แห่ง ปัจจุบันได้ทยอยเข้าไปพูดคุยกับแต่ละแห่งเพื่อให้ข้อมูลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายใหม่ดังกล่าว รวมทั้งแนะนำให้มีการปรับปรุงแก้ไขเป็นส่วนใหญ่แล้วเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย
นายสุรนาทกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีการผ่อนผันให้ทำอย่างถูกต้องภายใน 120 วัน หรือจนถึงวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งบรรดาผู้ประกอบการหลายแห่งก็ได้รื้อถอนสิ่งที่ยื่นออกไปกลางแม่น้ำออกเองและปรับปรุงให้เหมาะสมแล้ว ซึ่งหลายแห่งก็ได้รับคำแนะนำให้ปรับภูมิทัศน์เพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม
“อย่างไรก็ตาม หลังวันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไปจะออกตรวจสอบอีกครั้ง และดำเนินคดีต่อผู้เข้าข่ายละเมิดกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป”