ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - มทบ.33 จับมือเทศบาลนครเชียงใหม่ ระดมขุดลอกกำจัดผักตบชวาและวัชพืช, ปรับปรุงแนวคันดินและแนวกระสอบทรายตลอดแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรองรับมวลน้ำที่เพิ่มขึ้นช่วงฝนกระหน่ำ ป้องกันน้ำล้นตลิ่งท่วมเมือง
วันนี้ (7 มิ.ย. 60) ที่บริเวณริมแม่น้ำปิง หลังอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี เกษมสุข ตาคำ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พร้อมนายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นำประชาชน และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 33 รวมทั้งเครื่องจักร ร่วมกันกำจัดผักตบชวาและวัชพืช พร้อมทำการซ่อมแซมแนวคันดินและวางกระสอบทราย ตามโครงการขุดลอกกำจัดผักตบชวาและวัชพืช, ปรับปรุงแนวคันดิน และแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำล้นตลิ่ง ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 กล่าวว่า แม่น้ำปิงเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาผักตบชวาแพร่ขยายพันธุ์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อำเภอเมือง ตั้งแต่เขตเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ จนถึงเขตเทศบาลตำบลป่าแดด ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน ที่เมื่อเกิดฝนตกหนักปริมาณน้ำก็จะเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีการปรับปรุงแนวคันดินให้ดีขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำล้นตลิ่งจนสร้างความเดือดร้อนให้แกาประชาชนในพื้นที่ได้
โดยในการนี้แต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ติดกับลำน้ำปิงได้มีการวางแผนบูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วนในการที่จะร่วมแรงร่วมใจดำเนินการตามที่ได้กำหนดไว้ ทั้งแหล่งน้ำและแหล่งน้ำปิง โดยให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และมณฑลทหารบกที่ 33 ก็ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าให้การสนับสนุนบูรณาการในการกำจัดผักตบชวาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป
ด้านนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่กล่าวว่า การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่จากภาวะแม่น้ำปิงล้นตลิ่ง ในเวลานี้ได้เร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงตลอดช่วงที่แม่น้ำปิงไหลผ่านให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ โดยที่ผ่านมาอาจล่าช้าบ้างเนื่องจากบางจุดเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล และเป็นส่วนราชการ ซึ่งจะได้มีการรวบรวมข้อมูลแล้วดำเนินการหาแนวทางแก้ไขอีกครั้ง นอกจากนี้ เรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอีกอย่างคือเรื่องของจุดที่มีท่อระบายน้ำที่หากมีปริมาณน้ำมากจนพ้นระดับท่อ หากไม่มีการดูแลป้องกันไว้ก่อนก็จะส่งผลให้น้ำย้อนกลับเข้ามา จึงต้องมีการดูแลในจุดนี้ด้วย
ส่วนการปรับปรุงแนวคันดินทั้งสองฝั่งของลำน้ำปิงนั้น ต้องคำนึงถึงความกว้างที่แต่ละจุดจะไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น ที่บริเวณของสะพานนวรัฐมาจนถึงขัวเหล็ก ซึ่งหากเป็นฝั่งทางตะวันออกก็แทบจะไม่ต้องดำเนินการอะไร เนื่องจากมีการทำผนังกั้นน้ำไว้แล้ว ดังนั้น จุดที่ต้องเน้นแก้ไขเป็นพิเศษคือจุดที่มีความเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าเมือง เช่นที่ บริเวณจุดตรวจวัดระดับน้ำ P.1 หากมีปริมาณน้ำสูงขึ้นจนมีความเสี่ยงก็จะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงหรือจุดลุ่มต่ำก็ได้เร่งทำผนังและเนินดินป้องกันไว้เช่นจุดที่ได้ดำเนินการในครั้งนี้ รวมทั้งจุดสะพานลอยที่ข้ามไปโรงเรียนมงฟอร์ต ประถม และบริเวณศูนย์เด็กเล็กของเทศบาลฯ ที่จะต้องดำเนินการป้องกันเช่นกันเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดต่ำ และที่มีความเป็นห่วงคือจุดที่เครื่องจักรไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งต้องใช้แรงคนทำงานและอาจจะทำให้เกิดความล่าช้า แต่จะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ทุกจุด