เชียงใหม่ - หนุ่มแม่อาย ติดสารระเหย ยึดโรงแรมร้างนอนตระเวนหางานในเชียงใหม่กว่าสัปดาห์ ก่อเหตุวิ่งราวมือถือราคาแพงพระสงฆ์ขณะรออูเบอร์ หน้าจวนผู้ว่าฯ วิ่งไล่จีวรปลิวแต่ไม่ทัน แถมถูกชักมีดขู่ซ้ำ สุดท้ายตำรวจตามรวบตัวได้ทันควัน
วันนี้ (4 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นวิ่งราวโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 7 พลัส ของพระสงฆ์รูปหนึ่ง ทราบชื่อภายหลังคือ พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ขณะยืนรอขึ้นรถแท็กซี่อูเบอร์ บริเวณหน้าสวนสาธารณะ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 15.00 น.เศษที่ผ่านมา ก่อนวิ่งไปทางสะพานนวรัฐ
หลังเกิดเหตุพระสงฆ์รูปดังกล่าวได้วิ่งไล่ตามจนจีวรปลิวไปได้ประมาณ 100 เมตร กระทั่งเหนื่อยวิ่งไม่ไหว และยังถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดยาวเกือบ 1 ฟุต ข่มขู่ และมีพลเมืองดีวิ่งไล่ติดตามคนร้ายด้วยแต่ก็ไล่ไม่ทัน เห็นหลังคนร้ายวิ่งเลียบแม่น้ำปิงไปทางตลาดต้นลำไย จึงแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุม
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี ไว้ผมรองทรง สวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อยึดสีดำ สวมเสื้อแขนยาวทับ สะพายกระเป๋าสีดำ สวมรองเท้าแตะ ลักษณะคล้ายคนเมา เดินมาทางด้านหลังพระสงฆ์ และกระชากโทรศัพท์มือถือวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุไม่ถึง 2 ชม. เจ้าหน้าที่ซึ่งได้ติดตามหาเบาะแสตามตลาด จนสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ระหว่างทาง ก่อนถึงสี่แยกข่วงสิงห์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ขณะกำลังไปขึ้นรถโดยสารกลับบ้านในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางกระเป๋าสะพาย มีดพร้า โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ของใช้ส่วนตัว และกระป๋องกาว
สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้าง และเดินทางออกจากบ้านมาหางานทำในตัวเมืองเชียงใหม่เกือบ 1 สัปดาห์ โดยไปพักอาศัยในโรงแรมร้างย่านสี่แยกหนองประทีป ในตัวเมืองเชียงใหม่ และติดสารระเหยจากกลุ่มวัยรุ่นที่ไปอาศัยอยู่ในโรงแรมร้างด้วย ลงมือก่อเหตุเพื่อหาเงินกลับบ้าน โดยไปซุ่มหาเหยื่อ จนกระทั่งพบ พระยุทธการ ยืนรอรถอยู่จึงลงมือฉกโทรศัพท์
ขณะที่พระสงฆ์รูปดังกล่าว บอกว่า มารอรถอูเบอร์เพื่อกลับวัด เนื่องจากคิดราคาเพียง 170 บาท ถูกกว่ารถแท็กซี่ หรือรถสองแถว จึงใช้บริการเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุได้มายืนรอรถที่หน้าจวนผู้ว่าฯ แล้วมีคนร้ายเดินมาทางด้านหลัง คนร้ายฉวยโอกาสที่ไม่ทันระวังตัวคว้าโทรศัพท์มือถือวิ่งหลบหนีไป ซึ่งก็ได้พยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน จนกระทั่งตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว