สตูล - สภาเกษตรกรจังหวัดสตูล ร่อนหนังสือถึงรัฐบาล วอนพิจารณา พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย หลังสร้างความทุกข์ร้อนให้แก่ชาวบ้านเพิ่มขึ้น
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมวัฒนโกเมร ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายอภิมาตร เหร็บควนเคี่ยม ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล พร้อมคณะทำงานกว่า 15 คน เดินทางเข้าพบ นายสรเดช สุนทรารชุน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นายวินัย หมื่นสุวรรณ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาสตูล ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล เพื่อยื่นหนังสือผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี กรณีให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560
ด้วยเห็นว่าสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นองค์กรจัดตั้งตาม พ.ร.บ.สภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 ทำหน้าที่ประสานนโยบาย และการดำเนินงานระหว่างองค์กรเกษตรกรกรและหน่วยงานของรัฐ ได้รับข้อมูล และการร้องเรียนจากเกษตรกรในพื้นที่ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่ประกอบอาชีพประมงที่ต้องอาศัยแหล่งน้ำเป็นที่ทำมาหากิน และเป็นที่อยู่อาศัย บางส่วนกำลังอยู่ในสภาวะวิตกกังวลเป็นอย่างมากจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
ซึ่งมีบทบัญญัติในข้อกฎหมายให้ผู้ที่ยังไม่ได้ไปขึ้นทะเบียนสิ่งล่วงล้ำแหล่งน้ำต่อกรมเจ้าท่า ให้ไปขึ้นทะเบียนต่อกรมเจ้าท่า ภายในวันที่ 22 มิ.ย.2560 นั้น หรือได้รับการขึ้นทะเบียนต่อกรมเจ้าท่าแล้ว แต่ก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำแหล่งน้ำผิดไปจากที่ได้รับอนุญาต ต้องมีโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ในอัตราค่อนข้างสูง รวมทั้งต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายปีทุกปีต่อไปอีก เป็นภาระค่อนข้างมาก ทำให้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 1,442 ครอบครัว 4,326 คน พื้นที่กระชังสัตว์น้ำ 138,432 ตารางเมตร ได้รับความเดือดร้อนหนักจากการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว
สภาเกษตรกรจังหวัดสตูล จึงขอความอนุเคราะห์ให้รัฐบาลได้พิจารณาขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไปอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนต่อกรมเจ้าท่า ได้มีเวลาปรับตัว และสร้างความเข้าใจต่อเกษตรกรเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย และหากกฎหมายได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ขอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีความเหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบ และสร้างความเดือดร้อนต่อเกษตรกร ทั้งในเรื่องการประกอบอาชีพ และที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย
