xs
xsm
sm
md
lg

ชาวกาฬสินธุ์ชื่นชม “คำสอน สระทอง” ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ แม่ครูที่อุทิศตนเพื่อทอผ้าไหมแพรวา(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางคำสอน  สระทอง  อายุ 77  ปี  ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า)  ประจำปี 2559
กาฬสินธุ์ - ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมยินดี “แม่คำสอน สระทอง” เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ชี้มีความเหมาะสมเป็นแม่ครูผู้เสียสละอุทิศตนถ่ายทอดศาสตร์แห่งผ้าแพรวาแก่ผู้สนใจทั่วไป ทั้งยังเป็นผู้รังสรรค์ลวดลายผ้า และเป็นผู้อนุรักษ์ลวดลายผ้าแพรวาดั้งเดิมไว้ให้ลูกหลานจนถึงปัจจุบัน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 4 บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของนางคำสอน สระทอง อายุ 77 ปี ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ประจำปี 2559 โดยมีประชาชน ลูกศิษย์ และญาติพี่น้องเดินทางมาแสดงความยินดีตลอดทั้งวัน หลังได้ทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ท่ามกลางความปลื้มปีติของศิลปินแห่งชาติ แม่คำสอน สระทอง ซึ่งใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มตลอดทั้งวัน โดยมี นางอุบลรัตน์ ชาพา บุตรสาวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ศิลปินแห่งชาติ ยังใจดีนำกรุผ้าเก่าที่เก็บสะสมออกมาให้แขกเหรื่อได้ชื่นชมกันด้วย ซึ่งบางผืนมีอายุกว่า 200 ปี รวมถึงผ้าไหมแพรวาที่มีลวดลายวิจิตรสวยงาม

แม่คำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติฯ เล่าย้อนถึงความทรงจำให้ฟังว่า ครอบครัวเป็นเกษตรกร แต่ในส่วนตัวมีความสนใจเรื่องทอผ้ามาตั้งแต่เด็กๆ เห็นกี่ทอผ้าไม่ได้ต้องไปนั่งทอทุกๆ ที่ บางครั้งก็แอบขโมยไปทอของเพื่อนบ้านและบ้านญาติ เป็นความสนใจมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ได้รับคำชื่นชมเรื่องฝีมือทอผ้าจากผู้ใหญ่มาตั้งแต่ยังเล็กเช่นกัน ทั้งนี้ บ้านเกิดอยู่ที่บ้านคำคา ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ หรือที่เรียกว่าอำเภอเก่า

ก่อนจะแต่งงานตอนอายุ 19 ปี กับสามีคือ นายบุรี สระทอง ชาวบ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นความผูกพันกับผ้าไหมแพรวากับครูคนแรกคือ แม่ของสามี ที่สอนศาสตร์การทอผ้าไหมแพรวาให้ โดยเฉพาะลวดลายโบราณดั้งเดิม กับการปลูกฝังเรื่องการทอผ้าไหมแพรวา ที่เป็นเรื่องสำคัญของคนภูไทบ้านโพนอย่างยิ่ง พร้อมกับคำสั่งเสียให้เป็นผู้สืบสาน อนุรักษ์ และถ่ายทอดวิชาความรู้การทอผ้าไหมแพรวาต่อไปอย่าให้สูญหาย ซึ่งได้ยึดถือมาโดยตลอดเพราะจำในคำสอนไม่เคยลืมเลือน

แม่คำสอน บอกว่า ชีวิตอยู่กับการทอผ้ามาโดยตลอด แต่ที่ปลาบปลื้มที่สุดของชีวิตคือ การที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ครั้งเมื่อเสด็จเยี่ยมพสกนิกรเมื่อปี พ.ศ.2520 โดยสมเด็จพระพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้รับผ้าไหมแพรวาเข้ามาพัฒนาส่งเสริมเข้าสู่โครงการศิลปาชีพพิเศษ

โดยให้ขยายผ้าให้กว้างขึ้น มีหลากหลายสี จากเดิมที่จะเป็นสีแดงเพียงสีเดียว และมีความยาว 1 วา การได้ถวายงานรับใช้พระองค์ท่านนับเป็นบุญยิ่งใหญ่หาใดเทียบได้

แม่คำสอน กล่าวอีกว่า ในปี 2539 ได้รวมพลังชาวภูไทบ้านโพนทั้งหมดทอผ้า 60 ลาย 99 เมตร ทูลเกล้าฯ ถวายพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ในโอกาสครองราชย์ 50 ปี ที่ถือว่าเป็นผ้าแพรวายาวที่สุดในโลก จากนั้นปี พ.ศ.2554 ทอผ้าแพรวา 10 ลาย ความยาว 9 เมตร 43 แถว ทูลเกล้าฯ ถวายพ่อหลวง เนื่องในโอกาส 80 พรรษา และปี พ.ศ.2556 ทอผ้าไหมแพรวา 100 เมตร 100 ลาย ถวายพ่อหลวงให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ซึ่งได้นำไปทูลเกล้าฯ ถวายที่วังสวนจิตรลดา

ในห้วงสำนึกครั้งหนึ่งที่จดจำมิรู้ลืม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านอยากให้เราเป็นผู้สอน ผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้เรื่องการทอผ้าไหมแพรวา เป็นคำมั่นสัญญาที่ได้เปล่งออกไปต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ท่าน จวบจนชีวิตจะหาไม่ก็จะยึดคือคำมั่นนี้ไปตลอด เพราะเวลานี้ยังนั่งทอผ้า และสอนลูกศิษย์มิได้ขาด เวลาที่เหลือจากนี้ก็จะอุทิศให้แก่การเผยแพร่ และรังสรรค์ศาสตร์ศิลป์ผ้าไหมแพรวาให้มากที่สุด

แม่คำสอน บอกว่า ศิลปินแห่งชาติ เป็นรางวัลอันทรงเกียรติ และภาคภูมิใจมาก แต่ที่มาถึงวันนี้ก็ด้วยน้ำพระทัยพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวง และแม่ของแผ่นดิน ที่ทรงอุ้มชูพสกนิกรมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่เตือนใจ และติดตัวอยู่ตลอดคือ เหรียญพระราชทานไม่เคยห่างตัวเลยเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว เป็นกำลังใจสูงสุดของชีวิต ทำให้มีพลังในการทำหน้าที่ถวายงานพระองค์ท่านจนถึงทุกวันนี้ งานทอผ้าทั้งหมดจะนำขึ้นไปทูลเกล้าฯ ถวายเป็นการส่วนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

“เส้นไหมที่ใช้ทอผ้าไหมแพรวา พระองค์ท่านได้พระราชทานมาให้ แต่ละผืนจะเลือกเฟ้นลวดลายที่มีความวิจิตรสวยงาม มีความหมาย โดยยึดจากลายโบราณดั้งเดิม 60 ลาย ประยุกต์เข้ากับลายที่คิดค้นมาใหม่รวมๆ แล้วตอนนี้มีกว่า 100 ลาย ที่ใช้สำหรับการทอผ้าไหมแพรวาเฉดสี ก็เลือกตามความเหมาะสม ทั้งย้อมไหม และการทอ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นงานฝีมือทำด้วยมือทั้งหมด” แม่คำสอน กล่าว

สำหรับแม่คำสอน สระทอง ปัจจุบันอายุ 77 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4 แต่ด้วยความพากเพียร และความสนใจเรื่องทอผ้าไ ด้ยึดถือการทอผ้าไหมแพรวามาตั้งแต่อายุ 19 ปี จนถึงปัจจุบัน ทั้งเป็นผู้รวมกลุ่มภูไทบ้านโพน ร่วมทอผ้าผ้าแพรวา ควบคุมคุณภาพเป็นอย่างดี โดยลายแพรวาที่ทอครั้งแรกคือ ลายนาค ด้วยความชื่นชอบส่วนตัว โดยฝึกจากแม่สามีคือ คุณย่าเบ็ง สระทอง ซึ่งเป็นครูคนแรกในการสอนทอผ้าแพรวา และเรียนรู้มาเรื่อยๆ โดยเฉพาะคำแนะนำจากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ทั้งนี้ แม่คำสอน เคยได้รับพระราชทานเงินจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 40,000 บาท เพื่อเป็นทุนในการปฏิบัติหน้าที่เป็นวิทยากรสอนเทคนิคการทอผ้าไหมแพรวาให้แก่สมาชิก รางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ผู้มีผลงานดีเด่นสาขาทัศนศิลป์ (ศิลปะการทอผ้าแพรวา) ได้รับคัดเลือกให้เป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ คนดีศรีกาฬสินธุ์ ครูภูมิปัญญาไทย นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ ได้มอบปริญญา มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ที่เข้ารับพระราชทาน ปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อปี พ.ศ.2557

แม่คำสอน สระทอง ถือเป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์ มีผลงานด้านการทอผ้าแพรวาประดิษฐ์การทอผ้าแพรวา “เขาลาย” หรือ “ตระกรอลาย” นอกจากนี้ ยังรับหน้าที่เป็นครูสอนทอผ้าไหมแพรวาและวิทยากรในการถ่ายองค์ความรู้ ซึ่งถือเป็นแม่ครูขอวงการทอผ้าไหมแพรวา





กำลังโหลดความคิดเห็น