บุรีรัมย์ - ผอ.สพม.32 บุรีรัมย์ เร่งให้ครูที่ร้องเรียนถูกธนาคารยัดหนี้อ่วมคนละ 5-8 แสน และบางรายนำเงินสดไปปิดบัญชีแต่เจ้าหน้าที่ธนาคารไม่นำเงินเข้าระบบ นำใบเสร็จเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้นิติกรตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ครูที่กู้เงินสถาบันต่างๆ รอบคอบมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าว
วันนี้ (30 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีข้าราชการครูในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ร่วม 10 คน ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่ถูกธนาคารแห่งหนึ่งยัดหนี้ให้คนละ 500,000 และ 800,000 บาท เนื่องจากธนาคารซึ่งคาดว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อของธนาคารไม่นำเงินที่ครูกู้เพิ่มไปตัดหนี้เก่าตามระบบ บางรายนำเงินสดที่กู้จากต้นสังกัดไปปิดบัญชีเงินกู้แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารไม่นำเข้าระบบ ทำให้ครูหลายคนเดือดร้อนต้องเป็นหนี้ 2 สัญญา คือสัญญาเก่าและใหม่ ทั้งที่ตามระเบียบเงินในสัญญาใหม่จะต้องถูกตัดไปชำระสัญญาเก่านั้น
ดร.รัตติยา พานิชอนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 (สพม.32 บุรีรัมย์) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นแม้เป็นเรื่องส่วนบุคคลระหว่างครูที่ไปยื่นกู้เงินกับทางธนาคาร แต่ในฐานะต้นสังกัดได้แจ้งให้ข้าราชการครูที่อยู่ในสังกัด สพม.32 นำใบเสร็จหรือเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการยื่นกู้และการชำระเงินคืน มาให้ทางนิติกรของสำนักงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อจะได้หาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือตามขั้นตอน
ส่วนธนาคารขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่ถูกผู้ร้องเรียนกล่าวอ้างไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ยังสาขาดังกล่าวแล้วจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
“ขอประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการครู หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่ไปกู้เงินหรือทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินต่างๆ ได้เพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบเอกสารมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนผู้ที่มีสัญญากู้อยู่ก่อนหน้านี้แล้วให้ไปตรวจสอบสถานะบัญชีเป็นระยะๆ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะได้ดำเนินการแก้ไขทันที” ดร.รัตติยากล่าวในตอนท้าย
