xs
xsm
sm
md
lg

2 ครูสาวร้อง สพม.32 ช่วยหลังถูก จนท.แบงก์โกงเงิน ตร.รับแจ้งคดีอาญาเตรียมขอค้นเอกสารธนาคาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - 2 ครูสาวบุรีรัมย์ เดินหน้าร้อง สพม.32 ช่วยเหลือ พร้อมเผยคลิปเสียงสนทนากับ จนท.ธนาคารที่กล่าวหาฉ้อโกงเงินไม่นำกู้เพิ่มปิดบัญชี ทั้งไม่นำเงินสดที่หอบไปชำระหนี้เข้าระบบ ทำให้ครูหลายคนเป็นหนี้หลักแสนถึงล้าน ล่าสุด พบมีชื่อครูโผล่ส่งเงินแทน จนท. ด้าน ตร.รับแจ้งเป็นคดีอาญาแล้ว เตรียมทำหนังสือตรวจสอบเอกสารจากธนาคาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค.) นางศรุดา ประทุมภาพ และนางนิตยา สาธร 2 ครูสาว โรงเรียนไพศาลพิทยาคม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานใบแจ้งหนี้ของธนาคารแห่งหนึ่งตั้งอยู่ถนนธานี ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องในการกู้ และชำระเงินคืนให้นิติกรประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 (สพม.32) หน่วยงานต้นสังกัด ทำการตรวจสอบ และหาแนวทางช่วยเหลือ

หลังถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารฝ่ายสินเชื่อคนหนึ่งฉ้อโกงเงิน โดยการไม่นำเงินสดที่ครูนำไปชำระหนี้หรือปิดบัญชีเงินกู้เข้าในระบบธนาคาร ทั้งไม่นำเงินที่ครูทำเรื่องกู้เพิ่มไปตัดหนี้เก่าตามระบบ ทำให้มีหนี้ 2 สัญญา ตั้งแต่รายละหลักแสน ถึงหลักล้านบาท สร้างความเดือดร้อนให้แก่ข้าราชการครูเป็นอย่างมาก

พร้อมทั้งได้เปิดเผยคลิปเสียงบทสนทนากับเจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าว หลังที่ครูหลายคนทราบว่า มีการฉ้อโกงเงิน โดยในบทสนทนาดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะพยายามขอร้องให้ครูผู้เสียหาย หยุดร้องเรียน และห้ามให้ข้อมูลความจริงต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อที่ตนเองจะได้กลับเข้าไปทำงานในธนาคารอีกครั้งหลังจากถูกสั่งย้าย

ทั้งอ้างว่า หากได้กลับเข้าไปทำงานจะได้แก้ไขสถานะหนี้ให้ แต่ครูไม่หลงเชื่อจึงได้บันทึกเสียงสนทนาไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ล่าสุดยังพบมีรายชื่อข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย ชำระเงินแทนเจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าวด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวทาง สพม.32 จะได้เรียกตัวมาสอบถามข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อกรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งความเป็นคดีอาญา ที่ 1804/59 แล้ว

จากที่ตอนแรกเพียงให้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น พร้อมจะทำหนังสือขอตรวจสอบเอกสารต่อทางธนาคารด้วย และจะเรียกผู้ที่ถูกกล่าวอ้างถึงเข้ามาสอบปากคำตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน นายปาลีวัชรร์ คะสุวรรณวงศ์ นิติกร สพม.32 ระบุว่า จากการตรวจสอบเอกสารที่ครูนำมายื่นในเบื้องต้น รวมถึงคลิปเสียงการสนทากับเจ้าหน้าที่ธนาคาร และข้อมูลจากครู ก็น่าจะเข้าข่ายการฉ้อโกงด้วยการใช้อุบายต่างๆ เพื่อให้ได้ทรัพย์สินไป แต่จะเป็นข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน

ส่วนที่มีชื่อของข้าราชการครูไปชำระหนี้แทนเจ้าหน้าที่ธนาคารนั้น ก็จะต้องเรียกตัวครูคนดังกล่าวมาสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ซึ่งทางเขตก็พร้อมจะหาแนวทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่

กำลังโหลดความคิดเห็น