xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนเงินล้าน อ.นางรอง ปลอดดอกวุ่น สมาชิกฯ ไม่พอใจการสอบของกรรมการ ประธานฯ ยันทำตามมติประชาคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์- สมาชิกกองทุนหมู่บ้านหนองเต็ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ไม่พอใจคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังเข้ามาตรวจสอบกรณีประธานเรียกเก็บดอกเบี้ยกองทุนเงินล้านจากสมาชิกร้อยละ 10 เพราะไม่มีความชัดเจน ด้านประธานฯ ที่ถูกกล่าวหาแจงไม่ได้เรียกเก็บดอก แต่เป็นเงินค่าดำเนินการที่เก็บตามมติประชาคมหมู่บ้าน เชื่อถูกกลั่นแกล้ง พร้อมยันมีเอกสารหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบ

วันนี้ (26 พ.ย.) ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านบ้านหนองเต็ง ม.6 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ไม่พอใจหลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับอำเภอ ได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่กลุ่มสมาชิกฯ ร้องเรียนกล่าวหาว่า นายสนอง เป้าชุมแสง ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยจากสมาชิกกองทุนเงินล้านร้อยละ 10 ต่อคน หรือ 10,000 บาทต่อ 500 โดยเก็บ 2 ครั้งภายในปีเดียว

ทั้งที่ตามนโยบายรัฐบาลกำหนดให้โครงการดังกล่าวปลอดดอกเบี้ย 2 ปีแรก ของการกำหนดชำระคืนภายใน 7 ปี โดยชาวบ้านที่แสดงความไม่พอใจ ระบุว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการไม่มีความชัดเจน และไม่เกิดผลใดๆ มองว่าเป็นการมาชี้แจงแทนประธานกองทุนฯ ที่ถูกกล่าวหามากกว่า

โดยไม่ให้ประธานซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงเอง ทั้งได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยให้ชาวบ้านยอมรับเงินที่ถูกเรียกเก็บคืนแล้วยุติเรื่องการร้องเรียน

แต่ชาวบ้านยังคงยืนยันให้ตรวจสอบเอาผิดต่อประธานกองทุนฯ ตามขั้นตอน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก

นายปองเจตฎา กัลโยธิน และนางลำไย ละเอียด ตัวแทนสมาชิกกองทุนหมู่บ้านบ้านหนองเต็ง กล่าวตรงกันว่า ไม่เห็นด้วยที่ทางประธานกองทุนฯ เรียกเก็บเงินจากสมาชิกที่กู้กองทุนเงินล้านร้อยละ 10 หรือ 10,000 บาทต่อ 500 ตามจำนวนเงินที่กู้ โดยหากใครกู้ 20,000 บาท ก็จะต้องจ่ายดอก 2,000 บาท โดยอ้างเป็นค่าดำเนินการ เพราะมองว่าเป็นยอดเงินที่มากเกินความจำเป็นเป็นการซ้ำเติมชาวบ้าน

ส่วนใหญ่ที่ยื่นกู้ไปก็มีความจำเป็นที่ต้องนำไปลงทุนประกอบอาชีพ และเห็นว่าเป็นเงินกู้ที่ไม่มีดอกเบี้ยจึงได้ร้องขอความเป็นธรรม และอยากให้เอาผิดต่อประธานกองทุน เพื่อจะได้ไม่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก

ด้าน นายสนอง เป้าชุมแสง ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านหนองเต็ง ที่ถูกกล่าวหา ออกมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งจากผู้ที่ไม่หวังดี หรือไม่พอใจตนเองมากกว่า

เพราะการเก็บเงินจากสมาชิกตามที่มีการร้องเรียนนั้น เป็นไปตามมติที่ประชาคมของหมู่บ้าน ที่ได้มีการประชุมประชาคมเมื่อเดือน ก.ย.2558 ก่อนที่จะทำเรื่องยื่นกู้เงินในโครงการดังกล่าวผ่าน ธ.ก.ส.

ทั้งการเก็บเงินดังกล่าวไม่ได้เป็นการเก็บดอกเบี้ยตามที่สมาชิกระบุ แต่เป็นการเก็บเงินค่าดำเนินการกองทุนฯ และตนเองก็ไม่ได้ตัดสินใจ หรือทำเองโดยพลการ จริงแล้วการเก็บเงินค่าดำเนินการ จำนวน 500 บาท 2 ครั้งนั้น เป็นการเสนอในที่ประชุมประชาคมของสมาชิกกองทุนคนหนึ่งที่ออกมาร้องเรียนตนเองด้วยซ้ำ ซึ่งสมาชิกที่เข้าประชุมก็รับรู้ ที่สำคัญตนเองก็ไม่ได้เป็นคนไปเก็บ แต่เป็นกรรมการที่ดำเนินการจัดเก็บ

หลังจากนั้นก็มีการเรียกประชุมอีกครั้งเพื่อสอบถามถึงยอดเงินค่าดำเนินการที่เก็บเข้ากองทุน ก็ไม่มีสมาชิกคนใดทักท้วงว่าไม่เห็นด้วย หรือเรียกเก็บมากเกินไป กระทั่งมีการร้องเรียนเกิดขึ้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ส่วนตัวเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดี หรือไม่พอใจตนเองมากกว่า

พร้อมยืนยันว่า ทุกอย่างมีรายงานการประชุม และมีเอกสารหลักฐานถูกต้อง พร้อมให้ตรวจสอบเพื่อความบริสุทธิ์โปร่งใส

ขณะที่ นายเพชร สุพพัตกุล นายอำเภอนางรอง ระบุว่า ภายหลังมีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้นิ่งเฉย ทางอำเภอก็ได้ตั้งคณะกรรมการฯ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องเรียนแล้ว ซึ่งก็ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และเกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย




กำลังโหลดความคิดเห็น