บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้านหนองเต็ง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ บุกร้อง อบต.และศูนย์ดำรงธรรม ตรวจสอบเอาผิดผู้ใหญ่บ้าน ประธานกองทุนเงินล้าน เรียกเก็บดอกเบี้ยจากสมาชิกร้อยละ 10 อ้างเป็นค่าดำเนินการและเก็บทันทีในวันที่ได้รับเงินกู้ ชี้ขัดนโยบายรัฐบาลเป็นโครงการปลอดดอกเบี้ย ซ้ำขู่สมาชิกใครไม่จ่ายไม่ให้กู้ ชี้หากเรื่องไม่คืบจะบุกร้องนายกฯ ประยุทธ์แน่
วันนี้ (21 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน บ้านหนองเต็ง ม.6 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันนำหลักฐานใบเสร็จการเรียกเก็บเงินและดอกเบี้ย พร้อมหนังสือร้องเรียน เข้ายื่นร้องขอความเป็นธรรมกับนายอัมรินทร์ เหมวัฒน์ นายก อบต.หัวถนน และตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่านายสนอง เป้าชุมแสง ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน ได้มีพฤติกรรมเรียกเก็บดอกเบี้ยจากชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกองทุนเงินล้านร้อยละ 10 โดยหากใครยื่นกู้ 20,000 บาทจะถูกเรียกเก็บ 2,000 บาทในวันที่ได้รับเงินกู้ทันที ทั้งที่โครงการดังกล่าวเป็นโครงการปลอดดอกเบี้ย รัฐบาลต้องการจัดสรรมาเพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านที่มีฐานะยากจน เพื่อกู้ยืมไปเป็นทุนประกอบอาชีพค้าขาย เลี้ยงสัตว์ หรือทำการเกษตรตามความถนัดเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว
แต่นายสนอง ประธานกองทุนกลับเรียกเก็บดอกเบี้ยจากสมาชิกถึงร้อยละ 10 ต่อปี โดยอ้างว่าเป็นมติของหมู่บ้าน และหากสมาชิกคนไหนไม่ยอมจ่าย ได้พูดจากดดันขู่ว่าจะไม่ให้กู้ และหากมีเรื่องอะไรจะไม่ช่วยเหลือ ทำให้ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาและฐานะยากจน มีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจึงจำใจยอมจ่ายดอกเบี้ย แต่เมื่อไปสอบถามสมาชิกหมู่บ้านอื่นก็ไม่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ย มีเพียงค่าเอกสารการทำสัญญาคนละ 20-30 บาทเท่านั้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว หากพบว่ามีการเรียกเก็บดอกเบี้ยโดยไม่ถูกต้องโปร่งใส ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย พร้อมนำเงินที่เรียกเก็บมาคืนให้กับสมาชิกด้วย
นายสน ละเอียด อายุ 50 ปี ชาวบ้านบ้านหนองเต็ง ม.6 ต.หัวถนน กล่าวว่า ตนเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน เงินล้านและได้กู้เงินในโครงการดังกล่าวจำนวน 20,000 บาท ถูกผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นประธานกองทุนเรียกเก็บดอกเบี้ย 2,000 บาท ซึ่งตนต้องยอมจ่ายเพราะจำเป็นต้องกู้เงินจากกองทุนเงินล้านไปลงทุนประกอบอาชีพ เพราะหากใครไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 จะไม่ได้กู้เงิน
จากการกระทำของผู้ใหญ่บ้านตนและชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกองทุนเห็นว่าไม่ถูกต้อง ก่อนหน้านี้ได้ร้องเรียนไปยังทางอำเภอให้ตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีการตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆ
ด้านนายบำรุง ชาดี ตัวแทนชาวบ้านหนองเต็ง บอกตรงกันว่า การกระทำของผู้ใหญ่ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะโครงการดังกล่าวก็ระบุอยู่แล้วว่าปลอดดอกเบี้ย แต่ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นประธานกองทุนฯ กลับมาเรียกเก็บดอกเบี้ยจากชาวบ้านที่เป็นสมาชิก แต่จำใจต้องจ่ายเพราะถ้าใครไม่จ่ายผู้ใหญ่ขู่ว่าจะไม่ให้กู้ในกองทุนเงินล้าน และโครงการต่างๆ ที่ตกมาในหมู่บ้าน ซึ่งนอกจากจะขัดต่อนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมอาชีพให้คนยากจนโดยไม่คิดดอกเบี้ยแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านอีกด้วย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย หากพบผิดจริงก็ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย และปลดออกจากตำแหน่งเพื่อจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่น
ด้านนายอัมรินทร์ เหมวัฒน์ นายก อบต.หัวถนน กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน และส่งมอบให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามกรณีชาวบ้านร้องเรียน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่ อบต.หัวถนน ยังไม่ปรากฏว่ามีปัญหาเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ที่ผ่านมาการกู้เงินกองทุนเงินล้านจะมีเพียงการเก็บเงินค่าทำสัญญา ค่าเอกสารตามความเหมาะเท่านั้น แต่กรณีของหมู่บ้านหนองเต็งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย