บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้านบ้านประชาพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ตรวจสอบเอาผิดผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย ทุจริตเงินกองทุนแก้ไขปัญหาความยากจนกว่า 2 แสน และนำเงินโครงการประชารัฐกว่า 5 แสนไปก่อสร้างโรงผลิตน้ำดื่มไม่ตรงตามมติประชาคม ทั้งไม่ได้ใช้ประโยชน์จริง
วันนี้ (12 ก.ย.) ตัวแทนชาวบ้านบ้านประชาพัฒนา ม.8 ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ กว่า 30 ตัว ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ให้ตรวจสอบเอาผิด นายจันทา อันทะโคตร อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 และนางรจนา บุผามะตะนา อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 โดยกล่าวหาว่านางรจนา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้ทุจริตเงินกองทุนแก้ไขปัญหาความยากจน หรือ กข.คจ. ของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐจัดสรรงบประมาณมาให้ตั้งแต่ปี 2538 จำนวนกว่า 280,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีฐานะยากจน โดยการให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกยื่นกู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยให้หมู่บ้านบริหารจัดการกันเอง
แต่เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาชาวบ้านได้ไปขอยื่นกู้เงินกองทุนฯ แต่นายจันทา ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะประธานกองทุนแก้ไขปัญหาความยากจน และนางรจนา เลขานุการฯ กลับบอกว่าไม่มีเงินให้ชาวบ้านกู้เพราะสมาชิกยังส่งเงินไม่ครบ แต่เมื่อสอบถามสมาชิกก็ยืนยันว่าส่งเงินครบแล้ว ซึ่งส่อถึงความไม่โปร่งใส ชาวบ้านจึงได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.หนองกี่ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
จากนั้นตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่านางรจนามีการนำเงินที่เก็บจากสมาชิกที่กู้ยืมแต่ไม่ยอมนำเงินเข้าบัญชีกลับนำไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยมีการเรียกผู้ช่วยมาไกล่เกลี่ยให้หาเงินมาคืนกองทุนฯ แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ยังกล่าวหาว่านายจันทา ผู้ใหญ่บ้าน นำเงินโครงการประชารัฐกว่า 500,000 บาทไปก่อสร้างโรงผลิตน้ำดื่ม ซึ่งไม่ตรงตามมติที่ประชุมประชาคมหมู่บ้าน ทั้งไม่ได้ใช้ประโยชน์จริงเพราะมติประชาคมให้ก่อสร้างลานค้าชุมชน และจัดซื้อรถตุ๊กตุ๊กเพื่อใช้ขนพืชผลการเกษตร
ทั้งนี้ ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าการก่อสร้างโรงผลิตน้ำดื่มดังกล่าวไม่น่าจะใช้งบถึง 500,000 บาท เพราะบางส่วนเป็นโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว จึงอยากเรียกร้องให้ตรวจสอบเอาผิดทั้งผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วย
นางพัชลี จันทึก อายุ 40 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่มาร้องเรียน กล่าวว่า ที่มาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดในครั้งนี้อยากให้ไปตรวจสอบเอาผิดผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่มีพฤติกรรมทุจริตเงินโครงการกองทุนแก้ไขปัญหาความยากจนที่เก็บเงินจากสมาชิกไปแล้วแต่ไม่ยอมนำเงินเข้าบัญชีกลับนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ทั้งเงินโครงการประชารัฐกว่า 500,000 บาทที่ผู้ใหญ่นำไปก่อสร้างโรงผลิตน้ำดื่ม ซึ่งไม่ตรงตามมติประชาคมหมู่บ้าน ทั้งไม่ได้ใช้ประโยชน์จริง และเชื่อว่าการก่อสร้างโรงผลิตน้ำดื่มไม่น่าจะใช้งบถึง 500,000 บาท
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน
ขณะที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดได้รับเรื่องร้องไว้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ชาวบ้านร้อง ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย