ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา จ.ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต เรียกร้องหน่วยงานรัฐเร่งปรับปรุงซ่อมแซมถนนสึนามิ เลียบชายหาดเกาะสิเหร่ ชำรุด หลังที่ใช้มากว่า 10 ปี ระบุเป็นถนนเส้นหลักใช้อพยพหนีภัยสึนามิ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้มีชาวไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ และชาวบ้านม.4 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 50 คน นำโดย นายโอภาส จิตแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.รัษฎา พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปรับปรุงซ่อมแซมถนนสึนามิ ที่มีสภาพชำรุดหลังใช้งานมานานกว่า 10 ปี ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต โดยมี นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือในครั้งนี้
นายโอภาส จิตแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.รัษฎา กล่าวถึงการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ ว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงตรวจเยี่ยมชุมชน ม.4 บ้านแหลมตุ๊กแก ตามโครงการ “ผู้ว่าเยี่ยมบ้านยามเย็น” ซึ่งชาวบ้านได้นำเสนอปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการของชาวบ้านในชุมชน เรื่อง ถนนสายสึนามิ ที่เลียบชายหาด ซึ่งได้ก่อสร้างขึ้นหลังจากเกิดเหตุสึนามิถล่ม ประมาณปี 2547 จนถึงปัจจุบันรวมเวลาในการใช้งานมาแล้วมากกว่า 10 ปี ถนนจึงมีสภาพที่เสียหาย และทรุดโทรม ซึ่งในครั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ชี้แนะให้ชาวบ้านนำเรื่องเสนอไปยังเทศบาลตำบลรัษฎา เพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข ซึ่งตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปประสานกับเทศบาลตำบลรัษฎาแล้ว แต่ทางเทศบาลมีงบประมาณจำกัดจึงไม่สามารถดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมได้ ทางเทศบาลจึงได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เข้ามาดำเนินการแก้ไข และปรับปรุงให้ เพราะทาง อบจ.ภูเก็ต มีงบประมาณที่เพียงพอ
ซึ่งทางชุมชนได้รอมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จึงทำให้สภาพถนนในขณะนี้ยิ่งทรุดโทรมมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับผู้ปกครอง และเด็กเล็กที่เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่สำคัญกว่านั้น คือ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักที่ใช้สัญจร และเป็นเส้นทางเดียวที่ใช้หนีสึนามิ ทางคณะกรรมการชุมชนจึงขอความอนุเคราะห์ให้ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ช่วยประสานงานกับหน่วยงานงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือให้ถนนมีสภาพที่ใช้งานได้โดยปกติ เพื่อความสะดวกแก่ประชาชนในชุมชนต่อไป
นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้โดยเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (5 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ได้มีชาวไทยใหม่บ้านแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ และชาวบ้านม.4 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 50 คน นำโดย นายโอภาส จิตแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.รัษฎา พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปรับปรุงซ่อมแซมถนนสึนามิ ที่มีสภาพชำรุดหลังใช้งานมานานกว่า 10 ปี ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต โดยมี นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือในครั้งนี้
นายโอภาส จิตแป้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.รัษฎา กล่าวถึงการเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ ว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงตรวจเยี่ยมชุมชน ม.4 บ้านแหลมตุ๊กแก ตามโครงการ “ผู้ว่าเยี่ยมบ้านยามเย็น” ซึ่งชาวบ้านได้นำเสนอปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการของชาวบ้านในชุมชน เรื่อง ถนนสายสึนามิ ที่เลียบชายหาด ซึ่งได้ก่อสร้างขึ้นหลังจากเกิดเหตุสึนามิถล่ม ประมาณปี 2547 จนถึงปัจจุบันรวมเวลาในการใช้งานมาแล้วมากกว่า 10 ปี ถนนจึงมีสภาพที่เสียหาย และทรุดโทรม ซึ่งในครั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ชี้แนะให้ชาวบ้านนำเรื่องเสนอไปยังเทศบาลตำบลรัษฎา เพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข ซึ่งตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวไปประสานกับเทศบาลตำบลรัษฎาแล้ว แต่ทางเทศบาลมีงบประมาณจำกัดจึงไม่สามารถดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมได้ ทางเทศบาลจึงได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เข้ามาดำเนินการแก้ไข และปรับปรุงให้ เพราะทาง อบจ.ภูเก็ต มีงบประมาณที่เพียงพอ
ซึ่งทางชุมชนได้รอมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จึงทำให้สภาพถนนในขณะนี้ยิ่งทรุดโทรมมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับผู้ปกครอง และเด็กเล็กที่เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่สำคัญกว่านั้น คือ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักที่ใช้สัญจร และเป็นเส้นทางเดียวที่ใช้หนีสึนามิ ทางคณะกรรมการชุมชนจึงขอความอนุเคราะห์ให้ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ช่วยประสานงานกับหน่วยงานงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือให้ถนนมีสภาพที่ใช้งานได้โดยปกติ เพื่อความสะดวกแก่ประชาชนในชุมชนต่อไป
นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้โดยเร็วที่สุด
