สุรินทร์ - ชาวนาบ้านละเอาะ จ.สุรินทร์ เฮลั่น ประสบผลสำเร็จแก้ราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำได้แล้ว นำโรงสีข้าวชุมชนสีเอง บรรจุใส่ขวดน้ำดื่ม ขายตรงกับผู้บริโภคกิโลกรัมละ 22 บาท ผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ล่าสุดมียอดสั่งซื้อแล้วกว่า 2,000 กิโลกรัม ด้านผู้ว่าฯ สนับสนุน พร้อมเปิดตลาดนัดข้าวสารหน้าจังหวัดและอำเภอทุกแห่ง ดัดหลังโรงสีกดราคาซื้อข้าวเปลือก
วันนี้ (3 พ.ย. 59) ที่ศาลาประชาคมบ้านละเอาะ หมู่ 7 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายสมัย มาให้พร้อม ผู้ใหญ่บ้านละเอาะ พร้อมด้วยนายกัณฑ์ รัตนสกุลชาติ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.สุรินทร์ ได้เรียกประชุมชาวบ้านละเอาะ หมู่ที่ 7 เพื่อระดมความคิดเห็นและวางแผนจำหน่ายข้าวหอมมะลิที่กำลังเก็บเกี่ยวในขณะนี้ และข้าวหอมมะลิเก่าที่ชาวบ้าเก็บไว้ในยุ้งฉาง หลังจากเกิดปัญหาราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำในรอบหลายปี ชาวนาได้รับความเดือดร้อน ขายข้าวได้ไม่คุ้มกับราคาต้นทุน
การหารือแก้ปัญหาข้าวราคาตกต่ำนั้น เบื้องต้นจะนำข้าวเปลือกหอมมะลิทั้งข้าวเก่า และข้าวใหม่ นำมาสีเป็นข้าวสารนำไปบรรจุขวดน้ำดื่ม ชั่งได้ 1 กิโลกรัมครึ่ง ขายราคา 33 บาท และหากสั่งชื้อเป็นกิโลกรัมจะขายกิโลกรัมละ 22 บาท โดยช่องทางจะประกาศขายข้าวสารหอมมะลิผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
เวลาผ่านไปเพียง 1 วัน มียอดสั่งชื้อข้าวสารหอมมะลิ ของชาวบ้านละเอาะ มากถึง 2,000 กิโลกรัม หรือ 2 ตัน ทำให้ชาวบ้านละเอาะต่างดีใจมากที่สามารถเป็นผู้ขายข้าวสารของตนเองได้โดยผ่านคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ มี ธ.ก.ส.สุรินทร์ คอยเป็นพี่เลี้ยงแนะนำหลักการบริหารงาน
นายสมัย มาให้พร้อม ผู้ใหญ่บ้านละเอาะ กล่าวว่า ชาวบ้านละเอาะได้ทำประชาชนคมกันแล้วที่จะใช้โรงสีข้าวชุมชนของหมู่บ้าน สีข้าวเปลือกหอมมะลิออกขายเอง ขณะนี้ขายในราคากิโลกรัมละ 22 บาท และบรรจุขวดพลาสติกขนาดกิโลกรัมครึ่งขายขวดละ 33 บาท ราคาข้าวสารของเราจะถูกกว่าที่อื่น ไม่ใช่ขายตัดราคากัน แต่เพราะโรงสีขนาดเล็กไม่ได้คัดข้าวสีข้าวแบบรวม และขวดบรรจุไม่ต้องลงทุนมาก เป็นขวดใช้แล้วมาทำความสะอาดแล้วบรรจุ ขณะนี้มียอดสั่งชื้อข้าวสารหอมมะลิ บ้านละเอาะมาแล้ว 2 ตัน หรือ 2,000 กิโลกรัม
ด้านนายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งแต่ละวันได้ออกติดตามการชื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิตามโรงสีข้าว สหกรณ์การเกษตร และชุมชนต่างๆ หลังได้รับแจ้งถึงความสำเร็จของการขายข้าวสารผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก จึงได้เดินทางมาให้กำลังใจชาวบ้านที่รวมกลุ่มเดินหน้าขายข้าวสารหอมมะลิลักษณะขายตรงระหว่างชาวนากับผู้บริโภค ชื่นชมความสามัคคี ร่วมแรงเป็นหนึ่งเดียว สามารถดูแลกันเองได้ ไม่ต้องขายข้าวเปลือกในราคากิโลกรัมละ 6 บาท
การสีข้าวขายเองจะทำให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น สามารถยืดเวลาขายข้าวออกไปนานขึ้นได้ จะทำให้กลไกราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดตลาดนัดข้าวสารในทุกอำเภอ ทุกตำบล ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ก็จะจัดตลาดนัดข้าวสารในวันที่ 9-10-11พ.ย.นี้ บริเวณหน้าศาลากลาง ตามห้างร้านต่างๆ จะขายตรงข้าวสาร เป็นการช่วยชาวนาซึ่งเราจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง