xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” กระหน่ำดรามาข้าวถูก เยี่ยมชาวนาอุบลฯ ควักตังค์ซื้อข้าวริมถนนแจก ส.ส.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเยี่ยมชาวนาที่จ.อุบลราชธานี
อุบลราชธานี - “ยิ่งลักษณ์” นำก๊วนเพื่อไทยเยี่ยมชาวนาที่นำข้าวมาขายริมถนนที่อุบลราชธานี ท่ามกลางกองเชียร์เรียกร้องให้กลับมาเป็นนายกฯ อ้างเพื่อให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูง ก่อนกลับซื้อข้าวสารแจก ส.ส. และผู้ติดตาม พร้อมแจกลายเซ็นเป็นที่ระลึกบนถุงข้าวสารให้ชาวนา

วันนี้ (3 พ.ย. 59) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเครื่องบินมาที่สนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสมบัติ รัตโน, นายสมคิด เชื้อคง พร้อมสมาชิกพรรคในจังหวัดอุบลราชธานีไปรอต้อนรับที่สนามบิน จากนั้นได้เดินมายังหน้าโรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคี ถ.แจ้งสนิท ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี

ทั้งนี้ เพื่อเยี่ยมทักทายกลุ่มชาวนาที่มาจากอำเภอเดชอุดม, ม่วงสามสิบ, เหล่าเสือโก้ก, เขื่องใน และเขตอำเภอเมืองประมาณ 20 ราย ซึ่งสีข้าวสารหอมมะลิรวมกันประมาณ 3 ตันมานั่งจำหน่ายอยู่ริมรั้วหน้าโรงเรียนดังกล่าว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พูดคุยสอบถามเรื่องราคาซื้อขายข้าวระหว่างชาวนากับโรงสี ซึ่งได้รับคำตอบว่าราคาข้าวเปลือกในปีนี้ตกต่ำลงมาก โดยข้าวเปลือกสีใหม่สด โรงสีรับซื้อที่กิโลกรัมละไม่เกิน 7 บาท ตามความชื้นของข้าว หรือบางรายที่ยังมีน้ำปะปนสูงจนเครื่องไม่สามารถตรวจวัดความชื้นได้ โรงสีจะหักร้อยละ 10 ของข้าวเปลือกที่นำไปขายให้

ทำให้ชาวนาเหล่านี้ตัดสินใจรวมกลุ่มกันนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวไปตากแห้ง แล้วนำไปให้โรงสีในหมู่บ้านสีเป็นข้าวสารนำมาขายกิโลกรัมละ 20 บาท เมื่อหักต้นทุนค่าผลิต ค่าสี และค่าขนส่งชาวนายังได้กำไรเพิ่มจากการขายข้าวสารอีกกิโลกรัมละ 5 บาท จึงดีกว่าการนำไปขายให้โรงสีเหมือนที่ผ่านมา

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พูดคุยและรับปากหากมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศอีก จะช่วยดันราคาข้าวของชาวนาให้สูงขึ้นอีกครั้ง พร้อมแจกลายเซ็นบนถุงบรรจุข้าว และซื้อข้าวสารจากกลุ่มชาวนาที่นำมาวางขายมอบให้กลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ติดตามมาคนละ 5 กิโลกรัมเพื่อช่วยเหลือชาวนากลุ่มดังกล่าว หลังจากนั้นได้เข้าเยี่ยมชาวนาที่นำข้าวสารไปวางขายที่หน้าโรงเรียนอุบลวิทยาคม และหน้าธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาตลาดบ้านดู่ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี

ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมโรงสีชุมชน บ้านยางชุม ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อดูผลผลิตข้าว และตรวจสอบราคาข้าว และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเย็นวันเดียวกัน

ด้าน น.ส.นวล พันธ์เภา อายุ 46 ปี ชาวนาจากอำเภอเหล่าเสือโก้ก กล่าวถึงการนำข้าวมาขายเอง เพราะทำให้ได้ราคาสูงขึ้นกว่าการขายข้าวเปลือก จะได้มีเงินเหลือไปใช้หนี้สินที่กู้ยืมมาปลูกข้าว และต้องการให้รัฐบาลช่วยดันราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้นกว่านี้ เพราะชาวนากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมากในปีนี้





กำลังโหลดความคิดเห็น