อุบลราชธานี - ทหาร พาณิชย์ ตำรวจ ร่วม อคส.เมืองอุบลราชธานี ตรวจเช็กสต๊อกข้าวสารจำนำที่เก็บไว้ของรัฐบาล ป้องกันถูกนำออกไปปะปนข้าวใหม่ จนราคาข้าวปรับตัวลดลงมาก เบื้องต้นไม่พบมีข้าวหายจากบัญชี ด้านเกษตรกรผู้ปลูกข้าวระบุปัญหาของชาวนาขณะนี้ไม่มีที่ตากและเก็บข้าวเหมือนอดีต หลังเก็บเกี่ยวจำเป็นต้องขายทันที เพราะเก็บไว้นานข้าวเป็นเชื้อราเสียหายได้ ถ้ารัฐแทรกแซงราคากิโลกรัมละ 10 บาท ชาวนาพออยู่ได้
พล.ต.อชิร์ฉัตร โรจนะภิรมย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัด และตำรวจอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบสต๊อกข้าวสารหอมมะลิและข้าวท่อนหอมมะลิที่รัฐบาลรับจำนำข้าวประจำฤดูกาลผลิต 2556/2557 และ อคส.ได้จัดเก็บไว้ตามโรงสีทั้ง 6 แห่งในจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้เพื่อตรวจวัดปริมาณคงเหลือข้าวสารที่ฝากเก็บไว้ตรงตามบัญชีหรือไม่ จากการตรวจนับกระสอบบรรจุข้าวในวันนี้ ที่โรงสีแหลมข้าวแหลมทองอุบลจำกัด อำเภอวารินชำราบ และโรงสีอุบลธัญชาติ อำเภอสำโรง ซึ่งมีข้าวเก็บรักษาไว้ในโกดังรวมกันกว่า 35,000 ตัน โดยมีปริมาณข้าวอยู่ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในบัญชีจัดเก็บ ไม่มีข้าวหายไปจากโกดัง เพื่อนำไปทุ่มตลาด ทำให้ราคาข้าวประจำฤดูกาลผลิต 2559/2560 มีราคาตกต่ำลงแต่อย่างใด
พล.ต.อชิร์ฉัตรกล่าวว่า จากการตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกของโรงสีที่เข้าตรวจสอบวันนี้ พบว่าการรับซื้อข้าวจากชาวนาเป็นการรับซื้อในราคาปกติในช่วงที่ข้าวยังมีความชื้นสูง จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวนาตากข้าวให้แห้งก่อนนำมาขาย จะได้ราคาสูงขึ้น และขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อช่วยพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำลง จึงขอให้ชาวนาชะลอการขายข้าวในช่วงนี้ไว้ก่อนด้วย
ด้านนายจันทร์หอม ไทยกูล อายุ 41 ปี ชาวนาบ้านหนองยาง หมู่ 5 ต.หัวเรือ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งกำลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง กข 15 ประจำฤดูกาลผลิต 2559/2560 พื้นที่กว่า 30 ไร่ กล่าวว่า หลังรถทำการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ก็จะนำข้าวทั้งหมดไปขายให้โรงสีทันที โดยปัจจุบันขายได้ราคาเฉลี่ยตันละ 5,500-6,500 บาท โดยไม่เก็บข้าวไว้รอจำนำกับ ธ.ก.ส. เพราะไม่มียุ้งฉางและไม่มีที่ตากข้าว และหากเก็บไม่ดีหนูมากัดกินหรือข้าวเป็นเชื้อราเสียหายอีก รวมทั้งต้องรีบนำเงินไปจ่ายค่าการผลิต ถ้าไปกู้เงินมาจ่ายก็ต้องเสียค่าดอกเบี้ย คิดว่าไม่คุ้มถ้าจะจำนำกับ ธ.ก.ส. จึงตัดสินใจขายข้าวทั้งหมด สิ่งที่อยากให้รัฐบาลช่วยคือดันราคาข้าวขึ้นไปอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 10 บาท ชาวนาก็อยู่ได้แล้ว
