แนะชาวนาขอนแก่นชะลอขายข้าวเปลือก หายุ้งฉางกลางเก็บข้าวทยอยขายผลผลิต

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น วางกรอบแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ประสานกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 26 อำเภอ เร่งทำความเข้าใจชาวนา ชะลอขายข้าวเปลือก พร้อมจัดหายุ้งฉางเก็บข้าว ทยอยนำข้าวเปลือกจำหน่าย

วันนี้ (1 พ.ย. 59) ที่ห้องภูพาน โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำว่า จากการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาราคาข้าวของจังหวัดขอนแก่น พบว่าการเพาะปลูกข้าวปีนี้ได้ผลผลิตสูงมากจากฝนต้องตามฤดูกาล ศัตรูข้าวน้อย โดยผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดพร้อมกันปริมาณกว่า 6.8 แสนตัน ขณะที่ชาวนาจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเพื่อดำรงชีพ และต้องชำระหนี้เงินกู้ที่กู้ยืมมาทำนา ต่างเร่งขายผลิตข้าวเปลือกพร้อมๆ กันจนล้นตลาด กระทบต่อกลไกราคาข้าวเปลือกตกต่ำกว่าความเป็นจริง

สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือพยุงราคาข้าวเปลือกใน จ.ขอนแก่น ได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 26 อำเภอ ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชาวนาให้ชะลอขายข้าวเปลือกออกไปก่อน โดยให้เก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวแล้วควรตากผบผลิตข้าวเปลือกเพื่อไล่ความชื้นในเมล็ดข้าว หากความชื้นไม่เกิน 15% ผู้รับซื้อจะให้ราคาสูงกว่า

ขณะเดียวกัน ได้เร่งให้ทุกหน่วยงานสำรวจลานตากข้าวที่มีอยู่รวมทั้งยุ้งฉาง เพื่อเตรียมพร้อมช่วยแก้ปัญหาสถานที่ตากข้าวให้เกษตรกรที่ไม่มีลานตาก โดยจังหวัดขอนแก่นได้หารือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจรจากับทางรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการออกมาช่วยในเร็วๆ นี้ สอดคล้องกับทางผู้ประกอบการ ก็ต้องการให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางก่อน ค่อยทยอยออกมาขายเมื่อได้ราคาดี ซึ่งจะทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกไม่ล้นตลาด

ทั้งนี้ โดยภาพรวมการจัดการแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำนั้น คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ โดยให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางร้อยละ 90 ของราคาตลาด ที่ตันละ 9,700 บาท โดยเกษตรกรจะได้ตันละ 8,730 บาท

นอกจากนี้ เกษตรกรที่เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางจะได้ค่าเก็บรักษาข้าวตันละ 1,295 บาท โดยเป็นค่าปรับปรุงไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ และค่าเก็บข้าวในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน โดยจ่ายให้ทันที 1,000 บาท และอีก 500 บาท จ่ายเมื่อไถ่ถอน ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 11,525 บาท ส่วนเกษตรที่ไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว เมื่อขายข้าวให้กับโรงสีจะได้ราคาขายตันละ 9,700 และเมื่อรวมค่าตากข้าวจะขายข้าวได้ตันละ 10,995 บาท

โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะชะลอการขายข้าวเปลือกหอมมะลิออกจากตลาดปริมาณ 2 ล้านตัน ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลใช้ทันที โดยมีวงเงินสินเชื่อ และค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว รวม 35,900 ล้านบาท