กำแพงเพชร - ปราชญ์ท้องถิ่นเปิดบันทึก “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ” เสด็จฯ เยือนเมืองกล้วยไข่ 3 ครั้ง พระราชทานทุนเริ่มต้นสร้างพระอุโบสถวัดคูยาง-ปลูกสัก จนขยายพันธุ์ไปทั่วจังหวัด วางโครงการพระราชดำริ ทำคลองชลประทาน ด้านคุณยาย 4 แผ่นดิน หนึ่งในคนร่วมรับเสด็จบอก “พระองค์ท่านเอาใจใส่ราษฎรมาก”
นายสันติ อภัยราช อดีตประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ปราชญ์ท้องถิ่นเมืองกำแพงฯ อายุ 69 ปี เปิดเผยว่า งานที่ภูมิใจที่สุดในขณะนี้คือ การนำรายการโทรทัศน์วัฒนธรรม ภาษา และภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ดำเนินการทางเคเบิลทีวีท้องถิ่น กว่า 400 เรื่อง นำมาลงในภาคอินเทอร์เน็ต วิดีโอ กูเกิล เพื่อให้คนทั้งโลกได้รู้จักภาษาและวัฒนธรรมไทย
นายสันติบอกว่า ได้บันทึกข้อมูลการเสด็จฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อคราวเสด็จฯ เยือนจังหวัดกำแพงเพชรครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 ทรงบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และขึ้นประทับเสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ ศาลากลางจังหวัด
จากนั้นเวลา 14.30 น. พระองค์ท่าน และพระราชินี ได้เสด็จพระดำเนินลงมาปลูกต้นสักหน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งปัจจุบันจังหวัดกำแพงเพชรได้นำภาพถ่ายที่ทั้งสองพระองค์ทรงปลูกขยายใหญ่มาตั้งไว้ด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมยิ่ง และการได้ขยายพันธุ์สักพระราชทานไปปลูกทั่วทั้งจังหวัดกำแพงเพชร แสดงถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกล สมควรได้รับการยกย่อง
นายสันติเล่าอีกว่า วันที่ 20 พฤศจิกายน 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือนจังหวัดกำแพงเพชรครั้งที่สอง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรฯ เป็นการเสด็จฯ มาบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดคูยาง อ.เมืองกำแพงเพชร ขณะนั้นพระวิเชียรธรรมคณี (ทองพาน) เป็นเจ้าอาวาส
ครั้งนั้นพระองค์ท่านทรงถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการก่อสร้างพระอุโบสถ ซึ่งกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งเมื่อคราวเสด็จฯ ครั้งที่ 2 นี้มีราษฎรมาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จจำนวนมาก ทั้งสามพระองค์ทรงพระเกษมสำราญพระราชหฤทัย ทรงเยี่ยมเยียนราษฎรอย่างใกล้ชิด นำความสุขมาสู่ประชาชนอย่างถ้วนหน้า
พระวิเชียรธรรมคณี (ทองพาน) เจ้าอาวาสวัดคูยาง (ในขณะนั้น) ได้ใช้ปัจจัยจำนวน 60,000 บาท ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงถวายไว้เป็นทุนเริ่มต้น โดยทางวัดคูยางได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ผู้บริจาคทรัพย์สมทบ โดยใช้คำว่าโดยเสด็จพระราชกุศล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอนุโมทนา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2523
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหน้า และพระนามาภิไธยย่อ ส.ก.มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหลัง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2523, ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาใหม่ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2524 และพระราชทานนามพระพุทธรูปประธาน ซึ่งหล่อแบบศิลปะสุโขทัย หมวดกำแพงเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก 9 นิ้ว ว่า พระพุทธวชิรปราการ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2527
ปราชญ์ท้องถิ่นเมืองกำแพงเพชรเล่าต่ออีกว่า พระองค์ท่านเสด็จฯ เยือนจังหวัดกำแพงเพชรครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2521 โดยเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านของอำเภอต่างๆ ในจังหวัดกำแพงเพชรจำนวน 117 รุ่น ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านแล้ว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทต่อลูกเสือชาวบ้านและพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนราษฎรที่เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จในบริเวณนั้นจำนวนมาก
ในขณะนั้นประชาชนบ้านกิโลสอง บ้านกิโลสาม และบ้านกิโลหก และชาวบ้านใกล้เคียงในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้กราบทูลขอพระราชทานให้ทรงช่วยเหลือจัดหาน้ำให้ เพื่อใช้ในการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภคได้ตลอดปี
และวันต่อมา (30 มกราคม 2521) พระองค์ท่านโปรดเกล้าฯ ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการพระราชดำริ ซึ่งในปัจจุบันประชาชนทั้งหมดมีคลองชลประทาน ไปถึงหน้าบ้าน และเรือกสวนไร่นาทุกหนแห่ง สร้างความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมิรู้คลาย
“ระหว่างที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินกำแพงเพชร ทุกคนที่ได้ชมพระบารมี เมื่อไปสัมภาษณ์แต่ละท่าน ทุกท่านยังประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างไม่ลืมเลือน เพราะชาวกำแพงเพชรจะอยู่ใต้ร่มฟ้ามหาบารมีของพระองค์ตลอดตราบนิรันดร์”
ทั้งนี้ เมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเสด็จพระราชดำเนินศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ครั้งที่ 1 (25 มกราคม 2510) หนึ่งในผู้ที่เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จในครั้งนั้นด้วยคือ คุณยายเครือมาส จารุวัฒน์ หรือคุณยายถุงเงิน (ในรูปคนกลาง แต่งชุดไทย ผ้าไหมลายขวางสีเขียว) คุณยาย 4 แผ่นดิน ซึ่งเกิดในสมัยรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันอายุ 93 ปี อยู่บ้านเลขที่ 659 ถนนราชดำเนิน อ.เมืองกำแพงเพชร แต่ด้วยอายุมากจึงไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวได้ชัดเจน
นางจันทินี อภัยราช อายุ 68 ปี บุตรสาวคุณยายถุงเงิน เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ขณะนั้นคุณพ่อเป็นศึกษาธิการอำเภอคลองขลุง คุณแม่ (คุณยายถุงเงิน) ไปรับเสด็จพระองค์ท่านกับสมเด็จพระราชินี ซึ่งวันนั้นเป็นวันกองทัพไทยด้วย โดยเสด็จฯ ทางเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาลงบริเวณหน้าศาลากลาง โดยผู้ใหญ่ที่เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จจะถวายของเป็นที่ระลึก ส่วนภรรยาจะถวายช่อดอกไม้
นางจันทินีกล่าวว่า คุณแม่ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นดีใจ และตื่นเต้นมาก เพราะพระองค์ท่านเสด็จฯ ครั้งแรก การแต่งกายผู้หญิงจะแต่งกายชุดไทย เป็นผ้าถุงผ้าไหมลายขวางๆ พอรู้ข่าวพระองค์ท่านประชวร และทราบข่าวการสวรรคต รู้สึกเสียใจมาก รักพระองค์มาก เพราะพระองค์ท่านทรงเอาพระทัยใส่ราษฎร