xs
xsm
sm
md
lg

“สุวพันธุ์” ถกมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา คาดชงเข้า ครม.พ.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมขับเคลื่อนการดำเนินการเรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ตามคำสั่ง คสช.ดูยุทธศาสตร์ สนับสนุนการศึกษา ส่งเสริม คุ้มครอง เผยแพร่หลักที่ถูก ใครมีข้อเสนอส่งมาได้ก่อน 20 ต.ค.คาดชงข้อเสนอเข้า ครม.เดือนหน้า หวังแนวทางปฏิบัติทำปม รธน.กระจ่าง บอกอัยการสั่งเลื่อนคดี “ธัมมชโย” เป็นเรื่องของอัยการ

วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (เดิม) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมขับเคลื่อนการดำเนินการเรื่องมาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ในประเทศไทยตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 49/2559 ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นถือครั้งที่ 2 โดยเราได้เรียกผู้แทนจากทุกหน่วยด้านศาสนาและผู้แทนศาสนาเพื่อหารือแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับคำสั่ง คสช.ที่ 49/2559 โดยจะพิจารณายุทธศาสตร์ เช่น การสนับสนุนการศึกษา การส่งเสริมและคุ้มครองศาสนา การเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้อง การสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างศาสนาต่างๆ และการสร้างความรับรู้ และความเข้าใจในกิจการของศาสนาต่างๆ ซึ่งทางผู้แทนศาสนาได้ช่วยกันคิดมาเรียบร้อยแล้วและเราจะมาช่วยประมวลสรุปร่วมกันต่อไป

นายสุวพันธุ์กล่าวต่อว่า ใครที่มีความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมก็สามารถส่งมาพิจารณาภายในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ จากนั้นสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กรมการศาสนา และกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะร่วมพิจารณาและจะประชุมครั้งที่ 3 อีกครั้งในวันที่ 18 ตุลาคมเพื่อสรุปเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากนั้นเราจะออกเป็นแผนดำเนินงานเพื่ออุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ในไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้เราจะมีการทำงานร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย คือ พศ. กรมการศาสนา และ วธ.หรือที่เรียกว่าศาสนิกสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนกิจการศาสนาร่วมกัน

เมื่อถามถึงร่างรัฐธรรมนูญที่มีการสร้างความเข้าใจผิดเรื่องศาสนา นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เรื่องนี้ได้อธิบายให้เข้าใจในการประชุมครั้งที่ผ่านมาแล้ว และผู้แทนของทุกศาสนาเข้าใจ และมองเห็นว่าคำสั่งของ คสช.ฉบับที่ 49/2559 ที่ให้เชิญหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรทางศาสนาทุกศาสนามาหารือ เพื่อแนวทางปฏิบัติฉบับนี้ช่วยสร้างความกระจ่าง ทั้งนี้เมื่อมีการเสนอเข้า ครม. และเห็นชอบคณะกรรมการดังกล่าวนี้ก็ยังจะทำงานโดยจะมีการประชุมทุกๆ 3 เดือน ในเชิงยุทธศาสตร์และนโยบาย ส่วนในเชิงขับเคลื่อนจะให้ พศ. และกรมการศาสนาไปทำงานร่วมกัน และมาอธิบายให้คณะกรรมการฯ ฟังทุกๆ 3 เดือน

เมื่อถามว่าจะต้องออกเป็นกฎหมายถาวรก่อนหรือไม่ เพราะร่างรัฐธรรมนูญมีปัญหาเรื่องกการบิดเบือนไปแล้ว นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ไม่จำเป็น ในส่วนที่บิดเบือนไปถ้าเรานำข้อเท็จจริงไปตอบ ข้อมูลที่ถูกบิดเบือนก็จะจบไป ตนเชื่อว่าข้อเท็จจริงได้ ตอบไปแล้วว่ารัฐบาลคิดอย่างไร รัฐธรรมนูญจริงๆ เขียนอย่างไร และรัฐบาลทำอย่างไร เราสานต่อจนถึงทุกวันนี้ ต่อไปหาก ครม.เห็นชอบในยุทธศาสตร์ และแนวทางเกี่ยวกับการอุปถัมภ์ และคุ้มครองศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย รวมถึงฝ่ายขับเคลื่อน ฝ่ายราชการ และฝ่ายนโยบายจะเดินไปตามกรอบที่วางไว้ ซึ่งจะสามารถติดตามดูแลความก้าวหน้า ทำให้การดำเนินงานของศาสนาต่างๆ เป็นไปอย่างถูกทิศทาง และเป็นประโยชน์ต่อสังคม

เมื่อถามถึงประเด็นอัยการสั่งเลื่อนคดีพระธัมมชโยกับพวกคดี ฟอกเงินเป็นครั้งที่ 4 เนื่องจากผลสอบเพิ่มเติมยังไม่ครบถ้วน และมีเอกสารจำนวนมากที่ต้องตรวจสอบ นายสุวพันธุ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องของอัยการ


กำลังโหลดความคิดเห็น