วธ. เด้งรับ ม.44 ด้านศาสนา เร่งรวมข้อมูล และแผนการดำเนินงานในอนาคตสรุปเสนอ คสช. เชื่อทุกศาสนาไม่ค่อยมีประเด็นขัดแย้ง แต่สื่อโซเชียลปลุกเร้าให้เกิดกระแสจนลุกลาม ด้าน พศ. มอบคณะทำงานศึกษารายละเอียด เร่งสรุปมาตรการที่ต้องทำ เตรียมรายงาน มส. รับทราบ ก่อนรายงานนายกรัฐมนตรี
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย กำหนดให้สํานักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สถาบันการศึกษา ด้านศาสนา องค์กรปกครองคณะสงฆ์ องค์กรทางศาสนาต่าง ๆ ที่ทางราชการรับรอง ร่วมกันกําหนดมาตรการ และกลไกในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ของศาสนิกชนของทุกศาสนา และกําหนดมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทําลายพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่นนั้น โดยให้รายงานการทำงานทุก 3 เดือนต่อนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (23 ส.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีได้แจ้งเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเรื่องศาสนานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะแต่กรมการศาสนา (ศน.) แต่ยังเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) จึงจำเป็นต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ในการประเมินสถานการณ์ สรุปประเด็นปัญหา และทำแผนการส่งเสริมศาสนาทุกศาสนา
“เรื่องศาสนานั้นทุกศาสนาไม่ค่อยมีประเด็นความขัดแย้ง แต่สิ่งที่ปรากฏส่วนใหญ่มาจากสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ที่ปลุกเร้าคนให้เกิดกระแสจนเป็นประเด็นลุกลาม แม้ว่า ศน. จะดูแลงาน 5 ศาสนาอย่างดี และส่งเสริมให้เกิดการทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ยังไม่เป็นกิจจะลักษณะ จะมีแค่ครั้งคราวเท่านั้น อาทิ กรณีเกิดภัยพิบัติก็มีการรวมตัวของ 5 ศาสนา เพื่อร่วมรับบริจาคช่วยเหลือ หรืองานรวมพลัง 5 ศาสนามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ในโอกาสต่าง ๆ ดังนั้น เห็นว่า ศน. ควรเชิญผู้นำทุกศาสนามาแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน ขณะเดียวกันผมจะเรียกผู้เกี่ยวข้องในส่วนของ วธ. มาประชุมหารือภายในสัปดาห์นี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านศาสนาที่ วธ. ได้ทำมาแล้ว และแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป และสรุปนำเสนอ คสช. ต่อไป” นายวีระ กล่าว
ด้าน นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของ พศ. รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว ทาง พศ. ได้เตรียมพร้อมข้อมูลและหารือกับคณะทำงานของ พศ. โดยมีสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (สถ.) เป็นส่วนงานหลัก เพื่อดูรายละเอียดของคำสั่งว่า สั่งการให้ พศ. ทำอะไรบ้าง รวมทั้งสรุปความเห็นของคณะทำงานไว้ในการนำเสนอต่อนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าจะมีความเห็นเช่นไร ในขณะนี้ ผอ.พศ. ติดราชการในต่างประเทศ ก่อนที่จะหารือต่อมหาเถรสมาคม (มส.) และ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล พศ. หลังจากนั้นจะสรุปเป็นมาตรการเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย กำหนดให้สํานักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์อํานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สถาบันการศึกษา ด้านศาสนา องค์กรปกครองคณะสงฆ์ องค์กรทางศาสนาต่าง ๆ ที่ทางราชการรับรอง ร่วมกันกําหนดมาตรการ และกลไกในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ของศาสนิกชนของทุกศาสนา และกําหนดมาตรการและกลไกในการป้องกันมิให้มีการบ่อนทําลายพระพุทธศาสนา และศาสนาอื่นนั้น โดยให้รายงานการทำงานทุก 3 เดือนต่อนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (23 ส.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีได้แจ้งเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเรื่องศาสนานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะแต่กรมการศาสนา (ศน.) แต่ยังเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) จึงจำเป็นต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ในการประเมินสถานการณ์ สรุปประเด็นปัญหา และทำแผนการส่งเสริมศาสนาทุกศาสนา
“เรื่องศาสนานั้นทุกศาสนาไม่ค่อยมีประเด็นความขัดแย้ง แต่สิ่งที่ปรากฏส่วนใหญ่มาจากสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ที่ปลุกเร้าคนให้เกิดกระแสจนเป็นประเด็นลุกลาม แม้ว่า ศน. จะดูแลงาน 5 ศาสนาอย่างดี และส่งเสริมให้เกิดการทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ยังไม่เป็นกิจจะลักษณะ จะมีแค่ครั้งคราวเท่านั้น อาทิ กรณีเกิดภัยพิบัติก็มีการรวมตัวของ 5 ศาสนา เพื่อร่วมรับบริจาคช่วยเหลือ หรืองานรวมพลัง 5 ศาสนามหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบรมวงศานุวงศ์ในโอกาสต่าง ๆ ดังนั้น เห็นว่า ศน. ควรเชิญผู้นำทุกศาสนามาแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ร่วมกัน ขณะเดียวกันผมจะเรียกผู้เกี่ยวข้องในส่วนของ วธ. มาประชุมหารือภายในสัปดาห์นี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านศาสนาที่ วธ. ได้ทำมาแล้ว และแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป และสรุปนำเสนอ คสช. ต่อไป” นายวีระ กล่าว
ด้าน นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของ พศ. รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว ทาง พศ. ได้เตรียมพร้อมข้อมูลและหารือกับคณะทำงานของ พศ. โดยมีสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (สถ.) เป็นส่วนงานหลัก เพื่อดูรายละเอียดของคำสั่งว่า สั่งการให้ พศ. ทำอะไรบ้าง รวมทั้งสรุปความเห็นของคณะทำงานไว้ในการนำเสนอต่อนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าจะมีความเห็นเช่นไร ในขณะนี้ ผอ.พศ. ติดราชการในต่างประเทศ ก่อนที่จะหารือต่อมหาเถรสมาคม (มส.) และ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแล พศ. หลังจากนั้นจะสรุปเป็นมาตรการเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่