เผยผู้นำศาสนาชมรัฐบาลให้ความสำคัญทุกศาสนา แย้มตัวแทนอิสลามเตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อทำความเข้าใจ ขณะที่ พศ. ตั้งคณะทำงานเดินหน้าคำสั่ง คสช. ด้านศาสนา
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารและฝ่ายกฎหมายของ วธ. เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 49/2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย ว่า ในที่ประชุมเข้าใจตรงกันว่าคำสั่งดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องศาสนาที่จะมามีบทบาทในการอยู่ร่วมกันแบบปรองดองสมานฉันท์ และใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินการ 3 แนวทาง ดังนี้ 1. ให้กรมการศาสนา (ศน.) สรุปภารกิจและแนวทางการคุ้มครองและอุปถัมภ์ศาสนาทั้ง 5 ศาสนาที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง พร้อมรายงานการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาทั้ง 5 ว่า ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง 2. ให้ ศน. รวบรวม และประมวลประเด็นความอ่อนไหวเกี่ยวกับศาสนา เช่น ความขัดแย้ง การดูหมิ่นลบหลู่ การโจมตีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดียในปัจจุบันทั้งหมด เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการก่อนนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป และ 3. ให้ ศน. ประชุมหารือกับผู้นำหรือผู้แทนองค์การศาสนาทั้ง 5 ศาสนา
พร้อมกันนี้ จะประมวลและสรุปเป็นแนวทางในภาพรวมของ 5 ศาสนา นำเสนอรัฐบาล ส่วนการเผยแพร่คำสอนทางศาสนาที่บิดเบือนผ่านทางโซเชียลนั้น คงเป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่จะดูแล ส่วน วธ. จะประมวลประเด็นทั้งหมดให้ครอบคลุมเสนอรัฐบาลเพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนปฏิบัติการต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. กรมการศาสนา (ศน.) จัดประชุมหารือผู้นำองค์การ 5 ศาสนา โดย นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ผู้นำทุกศาสนาต่างชื่นชมรัฐบาลที่เห็นความสำคัญบทบาทของศาสนาอย่างแท้จริง และเชื่อว่า จะเป็นทิศทางเพิ่มประสิทธิภาพทุกมิติในสังคมไทย ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นรูปธรรม ที่ประชุมจึงเห็นตรงกันให้มีการจัดตั้งเป็นโครงข่ายภายใต้กฎหมายรองรับในรูปแบบคณะกรรมการ ที่ประกอบด้วย คณะบุคคลวิทยากรทุกศาสนาที่ได้รับการยอมรับในแต่ละศาสนาคัดเลือกให้มาทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาของตนเองให้ประชาชนเข้าใจถูกต้องในทุกศาสนา โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา รวมถึงคอยตรวจสอบเหตุการณ์ทางศาสนาที่บิดเบือน และแถลงให้ทราบได้ทันที โดยจะทำให้การทำงานในระดับจังหวัดและพื้นที่มีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของศาสนาอิสลาม ได้รับแจ้งว่าผู้นำ หรือผู้แทนศาสนามีแผนจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญ และคำสั่ง คสช. ให้พี่น้องมุสลิมรับทราบถึงความตั้งใจของรัฐบาลด้วย
ด้าน นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ตนพร้อมทำตามนโยบายของ คสช. ในขณะนี้ พศ. ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมข้อมูลและวางแนวทางการทำงานตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว โดยตนเป็นประธาน พร้อมทั้งแต่งตั้ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ปัตตานี ผอ.พศจ.พระนครศรีอยุธยา ผอ.พศจ.ขอนแก่น และ ผอ.พศจ.เชียงใหม่ ร่วมในคณะทำงานด้วย เนื่องจากพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าวมีผู้นับถือศาสนามากกว่าที่อื่น อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะประชุม ซึ่งผมจะมีการชี้แจงไปยังคณะสงฆ์ให้เกิดความเข้าใจในคำสั่งดังกล่าวด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่