ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เทศบาลนครเชียงใหม่เผยใกล้ครบกำหนด 30 วัน ให้ “วัดอู่ทรายคำ” ยื่นแบบแก้ไขใหม่ขออนุญาตก่อสร้างอาคารที่เกิดกรณีปัญหาสร้างชิดและสูงค้ำหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี หลังถูกชาวบ้านร้องเรียนความเหมาะสมและก่อสร้างไม่เป็นตามข้อบังคับกฎหมายจนต้องระงับก่อสร้าง ชี้หากพ้นกำหนดเตรียมสั่งรื้อถอน ส่วนกรณีถูกสงสัยใช้อาคารเดิมเปิดบริการห้องพักเหมือนโรงแรมกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ความคืบหน้ากรณีวัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งประเด็นความเหมาะสมกำลังทำการก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรที่สร้างจากไม้เกือบทั้งหลังอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี โดยจากการตรวจสอบพบด้วยว่าการก่อสร้างดังกล่าวได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุญาต ทว่าได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วจนมีประชาชนร้องเรียนและถูกสั่งระงับก่อสร้างเมื่อปลายเดือน ส.ค. 59 ที่ผ่านมา
นายวราวุฒิ โตคณิตชาติ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวหลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามา ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ตรวจสอบพบว่าทางวัดได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุญาต เนื่องจากพบว่าตามแบบไม่ได้มีการเว้นระยะห่างจากจุดกึ่งกลางถนน 6 เมตรตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้แจ้งให้วัดทราบเพื่อทำการปรับปรุงแบบแล้ว แต่ทางวัดไม่ได้ดำเนินการ
รวมทั้งต่อมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและทำการตรวจสอบพบว่าวัดได้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว เทศบาลนครเชียงใหม่จึงได้สั่งระงับการก่อสร้างไปแล้ว และให้วัดทำการปรับแบบและยื่นขออนุญาตก่อสร้างใหม่อีกครั้ง โดยได้ทำหนังสือแจ้งเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 59 และมีกำหนดให้ดำเนินการภายใน 30 วัน หากพ้นกำหนดจะมีการแจ้งให้ดำเนินการรื้อถอนต่อไป ซึ่งทราบว่าขณะนี้วัดยุติการก่อสร้างไว้แล้ว และยังไม่ได้ดำเนินการยื่นแบบใหม่
ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยด้วยว่าวัดอู่ทรายคำมีการใช้อาคารสูง 3 ชั้นที่มีอยู่เดิมของวัดเปิดให้บริการห้องพักหรือไม่ หลังจากที่มีผู้โพสต์ภาพในโซเชียลมีเดียเป็นภาพห้องพักที่ดูคล้ายห้องพักโรงแรม ทั้งจากการจัดวางเตียงที่นอน และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน รวมทั้งยังได้มีการโพสต์ภาพที่ดูคล้ายระเบียบเกี่ยวกับการใช้ห้องพักด้วยนั้น
ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลจากสื่อที่มีการนำเสนอ ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป ว่าอาคารดังกล่าวแจ้งขอใช้ประโยชน์ใดและใช้ประโยชน์ตามที่แจ้งไว้หรือไม่ โดยหากมีการใช้ประโยชน์ในลักษณะของห้องพักโรงแรม ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีการสั่งระงับการใช้อาคารและดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเวลานี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
