ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองนายก ทน.เชียงใหม่ พร้อม ผอ.ส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง ย้ำชัดอาคารสูง 4 ชั้น ติดกับหอไตรไม้อายุเก่าแก่กว่าร้อยปีของวัดอู่ทรายคำ ยังไม่ได้รับอนุญาต-สั่งระงับก่อสร้างแล้ว เนื่องจากพบว่าไม่ได้เว้นระยะห่างจากถนนตามที่กฎหมายกำหนด ยันตรวจสอบเคร่งครัด หากจำเป็นต้องทุบทิ้งก็ต้องทำ พบว่าแบบแปลนที่วัดเคยยื่นไว้ระบุก่อสร้างเป็นกุฏิห้องขนาด 3.8x5 เมตร 19 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ขัดแย้งกับที่ทางที่ปรึกษาวัดบอกว่าสร้างเป็นห้องพักรวม 40 เตียง และใช้ห้องน้ำรวม
วันนี้ (8 ก.ย. 59) ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ นายชาตรี เชื้อมโนชาญ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และนายวราวุฒิ โตคณิตชาติ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกันชี้แจงกรณีที่วัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กำลังทำการก่อสร้างอาคารสูง 4 ชั้น ติดกับหอไตรไม้อายุเก่าแก่กว่าร้อยปีของวัด ซึ่งถูกกระแสสังคมตั้งประเด็นสงสัยเกี่ยวกับความเหมาะสม โดยระบุว่าการก่อสร้างอาคารดังกล่าวนั้นทางวัดอู่ทรายคำได้มีการยื่นแบบแปลนการก่อสร้างเพื่อขออนุญาตก่อสร้างตั้งแต่ประมาณเดือน เม.ย. 59 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ยังไม่ได้อนุมัติการอนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด เนื่องจากเบื้องต้นพบว่าตามแบบไม่ได้มีการเว้นระยะห่างจากจุดกึ่งกลางถนน 6 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้แจ้งให้ทางวัดทราบเพื่อทำการปรับปรุงแบบแล้ว แต่ทางวัดไม่ได้ดำเนินการ รวมทั้งต่อมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและทำการตรวจสอบพบว่าทางวัดได้เริ่มทำการก่อสร้างไปแล้ว ทางเทศบาลนครเชียงใหม่จึงได้สั่งระงับการก่อสร้างไปแล้ว และให้ทางวัดทำการปรับแบบและยื่นขออนุญาตก่อสร้างใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่กล่าวว่า ตามที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารของวัดอู่ทรายคำ เมื่อทราบเรื่องได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบทันที และพบว่ามีการก่อสร้างไปแล้วทั้งที่ยังไม่ได้รับการอนุญาต ซึ่งได้สั่งระงับการก่อสร้างไว้แล้ว พร้อมให้ทางวัดทำการปรับแบบและยื่นขออนุญาตใหม่ โดยในส่วนที่มีการก่อสร้างไปแล้ว หากมีความจำเป็นต้องทุบและรื้อทิ้งก็ต้องดำเนินการ และแบบที่มีการยื่นขออนุญาตใหม่ก็จะต้องทำการพิจารณาอย่างเคร่งครัดไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากในส่วนของวัดอู่ทรายคำแล้ว พบด้วยว่าในย่านถนนช้างม่อยเก่า บริเวณโดยรอบวัดยังมีอาคารหลายหลังที่ทำการต่อเติมโครงสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและผิดกฎหมาย ซึ่งจะถือโอกาสเดียวกันนี้นำร่องตรวจสอบอาคารในย่านนี้อย่างเข้มงวดเคร่งครัดตามกฎหมาย และขยายไปยังพื้นที่ทั้งหมดทั่วเทศบาลนครเชียงใหม่
ขณะที่ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แบบแปลนที่ทางวัดอู่ทรายคำยื่นขออนุญาตก่อสร้างนั้นระบุว่าเป็นกุฏิพระสงฆ์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น สูง 12 เมตร ตามแบบมีลักษณะเป็นห้องพักเดี่ยว แต่ละห้องมีขนาดกว้างประมาณ 3.8 เมตร ยาว 5 เมตร รวมทั้งหมด 19 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ทั้งนี้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ยังไม่ได้อนุญาตก่อสร้างเนื่องจากพบว่าตามแบบอาคารไม่ได้เว้นระยะห่างจากกึ่งกลางถนน 6 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งได้แจ้งให้ทางวัดทำการปรับแบบและระงับการก่อสร้างไปแล้ว โดยแนวทางแก้ไขเป็นไปได้ทั้งการรื้ออาคารบางส่วนออกไปหรือลดความสูงของอาคารลงเหลือ 2 ชั้น อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ทางวัดยังไม่มีการยื่นขออนุญาตเข้ามาใหม่ ส่วนการก่อสร้างอาคารอยู่ติดประชิดกับหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีนั้น หากหอไตรดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในเบื้องต้นก็สามารถทำได้
สำหรับกรณีอาคาร 3 ชั้น ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีการเปิดให้บริการที่พักหรือไม่นั้น เบื้องต้นพบว่าเป็นอาคารเก่าของวัด ซึ่งไม่ทราบว่าปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์อย่างไร และที่ผ่านมามีการปรับปรุงต่อเติมอาคารหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้ ทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะเข้าทำการตรวจสอบให้ทราบผลภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้ โดยหากพบว่ามีการดำเนินการใดๆ ที่ไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทางวัดทราบเพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป ส่วนอาคารดังกล่าวมีการใช้ประโยชน์ในลักษณะของโรงแรมที่พักหรือไม่นั้น เบื้องต้นไม่สามารถระบุได้ แต่ที่ผ่านมาทางวัดไม่เคยแจ้งเช่นนั้น และหากจะเปิดบริการในลักษณะของโรงแรมก็จะต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า จากข้อมูลที่เทศบาลนครเชียงใหม่เปิดเผยว่า แบบแปลนที่ทางวัดอู่ทรายคำยื่นขออนุญาตก่อสร้างนั้นเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น สูง 12 เมตร ตามแบบมีลักษณะเป็นห้องพักเดี่ยวแต่ละห้องมีขนาดกว้างประมาณ 3.8 เมตร ยาว 5 เมตร รวมทั้งหมด 19 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว ขัดแย้งกับข้อมูลที่ทางที่ปรึกษาวัดอู่ทรายคำชี้แจงเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 59 ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าอาคารที่ก่อสร้างใหม่ออกแบบเป็นห้องพักรวม 40 เตียง และห้องน้ำก็เป็นห้องน้ำรวมเพื่อให้เป็นกุฏิใหม่สำหรับพระสงฆ์ของวัด และขยายการรองรับพระสงฆ์จากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเพิ่มเติมจากอาคารเดิมที่มีห้องพัก 11 ห้อง ขณะที่ข้อมูลจากลูกศิษย์วัดเคยให้ไว้ ระบุว่าวัดอู่ทรายคำมีพระสงฆ์จำวัดอยู่ทั้งหมด 6 รูป