ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ไม่หยุด! วัดดังเชียงใหม่เดินหน้าสร้างอาคารสูงค้ำหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีต่อเนื่อง แม้เทศบาลนครเชียงใหม่สั่งระงับก่อสร้างตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สังคมยังไม่ได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับความเหมาะสมและข้อสงสัยเรื่องการเปิดให้บริการที่พัก ส่วนที่วัดไร้เงาเจ้าอาวาสเพราะติดกิจนิมนต์ข้างนอก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (30 ส.ค. 59) ที่วัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คนงานยังคงดำเนินการก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้นตามปกติ แม้ว่าทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำหนังสือลงวันที่ 22 ส.ค. 59 สั่งระงับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไปแล้ว หลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนและเทศบาลนครเชียงใหม่เข้าทำการตรวจสอบพบว่าทางวัดได้ยื่นขออนุญาตสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้น โดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาต แต่ทางวัดกลับดำเนินการก่อสร้างไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกัน การก่อสร้างอาคารดังกล่าวยังถูกตั้งประเด็นคำถามจากชุมชนโดยรอบและสังคมทั่วไป รวมทั้งในโซเชียลมีเดียด้วย เกี่ยวกับความเหมาะสมที่ทำการก่อสร้างอาคารสูงอยู่ติดประชิดกับหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปีของวัด โดยที่อาคารมีความสูงกว่ายอดของหอไตรเสียอีก ซึ่งผู้คนต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นและวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างอาคารดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับอาคารสูง 3 ชั้นที่มีอยู่เดิมของวัด ว่ามีการเปิดให้บริการห้องพักหรือไม่ หลังในโซเชียลมีเดียมีการโพสต์ภาพห้องพักที่ดูคล้ายห้องพักโรงแรม ทั้งจากการจัดวางเตียงที่นอน และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน รวมทั้งยังได้มีการโพสต์ภาพที่ดูคล้ายระเบียบเกี่ยวกับการใช้ห้องพักด้วย ซึ่งระบุว่าเป็น “ศูนย์ที่พักอาคันตุกะสงฆ์ และผู้ติดตาม” วัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และมีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ตลอดจนมีการระบุเกี่ยวกับบริการนวดแผนโบราณด้วย
โดยในวันนี้ (30 ส.ค. 59) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดอู่ทรายคำเพื่อขอเข้าพบเจ้าอาวาสวัด และสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามได้รับแจ้งจากผู้ดูแลวัดว่าเจ้าอาวาสไม่อยู่ เนื่องจากเดินทางไปรับกิจนิมนต์ข้างนอก โดยน่าจะกลับมาที่วัดในช่วงเย็นหรือค่ำ
ทั้งนี้ จากกรณีการก่อสร้างอาคารดังกล่าว รวมทั้งการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปิดให้บริการห้องพักของวัดอู่ทรายคำนั้น รายงานแจ้งว่า เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ เตรียมทำหนังสือเป็นทางการยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการให้เกิดความถูกต้องเหมาะสม หลังจากได้แจ้งกรณีที่เกิดขึ้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ทราบอย่างไม่เป็นทางการด้วยวาจาไปแล้ว ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้มีการแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยอย่างยิ่ง และให้ทำหนังสือยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรม
สำหรับกรณีดังกล่าวนี้เริ่มเป็นที่รับรู้จากการที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก “เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่” ได้ทำการแชร์โพสต์ของผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก Saowakhon Sriboonruang ที่โพสต์ข้อความว่า “เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร???? วันที่วัดสร้างอาคารใหม่ ติดกับหอไตรเก่าแก่งดงาม สูงตระหง่านค้ำหอไตร สูงกว่าเจดีย์ สูงกว่าวิหาร ฤาความเชื่อความยึดถือศรัทธาสิ้นมนต์ไปจากแผ่นดินล้านนาเสียแล้ว” พร้อมกับภาพถ่ายหอไตรที่สร้างจากไม้เกือบทั้งหลังอายุเก่าแก่ในวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งพื้นที่ติดกันนั้นทางวัดกำลังทำการก่อสร้างอาคารที่มีการขึ้นโครงสร้างเสาและเทพื้นแล้ว
คาดว่าน่าจะมีความสูงไม่ต่ำกว่า 3 ชั้น และความสูงเบื้องต้นเท่ากันหรือสูงกว่าหอไตรแล้ว ซึ่งผู้ที่เห็นโพสต์ดังกล่าวต่างแสดงความเห็นว่าการสร้างอาคารสูงดังกล่าวค้ำหอไตรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่วัดเป็นผู้สร้างเอง
ขณะที่ต่อมาแฟนเพจเฟซบุ๊ก “จับตาเชียงใหม่” ได้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยการโพสต์แชร์ข่าว “หดหู่! ชุมชนโพสต์ภาพวัดเชียงใหม่สร้างตึกประชิดและสูงค้ำหอไตรไม้เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี-เหยียบย่ำศรัทธา” และมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งในแง่ความเหมาะสมและการตั้งคำถามถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างอาคารของทางวัด
ขณะเดียวกันยังได้มีการโพสต์ภาพห้องพักที่ดูคล้ายห้องพักโรงแรม ทั้งจากการจัดวางเตียงที่นอน และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน รวมทั้งยังได้มีการโพสต์ภาพที่ดูคล้ายระเบียบเกี่ยวกับการใช้ห้องพักด้วย ซึ่งระบุว่าเป็น “ศูนย์ที่พักอาคันตุกะสงฆ์ และผู้ติดตาม” วัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และมีหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ตลอดจนมีการระบุเกี่ยวกับบริการนวดแผนโบราณด้วย