สุรินทร์- ผู้ว่าฯ สุรินทร์ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแก๊งวัยรุ่นควงปืน-มีด ยกพวกตะลุมบอนกันในย่านบันเทิงกลางเมืองช้าง ยิงคู่อริตาย 1 ราย และสาหัส 1 ราย ล่าสุด ตำรวจตามรวบได้แล้วยกแก๊ง โดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพขณะก่อเหตุได้ชัดเจน ผู้ว่าฯ ลั่นก่อเหตุอุกอาจกลางเมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยว และที่สาธารณะ สั่งดำเนินคดีเด็ดขาด
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องโทรทัศน์วงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ขณะกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตะลุมบอนกัน และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่คู่อริ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดย่านสถานบันเทิงถนนศิริรัฐ เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันนี้ (19 ก.ย. ) หลังจากสถานบันเทิงเริ่มปิดให้บริการท่ามกลางผู้คนจำนวนมากทยอยเดินทางกลับบ้าน และเป็นหลักฐานสำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มา
ล่าสุด ช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ (19 ก.ย.) นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนศิริรัฐ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองสุรินทร์ และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เข้าเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
สำหรับเหตุวัยรุ่นยกพวกตะลุมบอลกัน และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่คู่อรินั้น เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น. วันนี้ (19 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และ สภ.เมืองสุรินทร์ เกิดเหตุวัยรุ่นยกพวกทะเลาะวิวาทใช้ทั้งปืน และอาวุธมีดยิงใส่กันในร้านสะดวกชื้อ เป็นเหตุให้นักศึกษาถูกลูกหลงบาดเจ็บสาหัส มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เหตุเกิดย่านสถานบันเทิงถนนศิริรัฐ เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์
จากนั้นตำรวจสายตรวจ ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ชีพนเรนทร โรงพยาบาลสุรินทร์ หน่วยวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ ร่วมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตามรับแจ้งที่ประตูทางเข้าร้านสะดวกชื้อ ตรงข้ามทางเข้าโรงแรมทองธารินทร์ ถนนศิริรัฐ พบ นายภูธเนศ ยอดอาจ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 8 ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดเข้าที่ร่างกาย กระปืนถูกด้านหลัง 1 นัด ตัดขั้วหัวใจทะลุออกหน้าอก เลือดไหลท่วมร่าง และนองเต็มพื้น
โดยมี นายปรเมศ ทวีศรี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 6 ต.บัวเชด อ.บัวเชด นายศุภฤทธิ์ ลาภมา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 13 ต.บัวเชค อ.บัวเชด เพื่อนนักศึกษาพากันอุ้มร่างเข้าไปหน้าเคาน์เตอร์ร้านสะดวกชื้อ
ต่อมา อาสากู้ชีพกู้ภัยสุรินทร์ วีอาร์กู้ชีกสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ศูนย์นเรนทร เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ แพทย์ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่อาการสาหัสเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนั้น อาสากู้ภัย กู้ชีพยังพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย รอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อยู่บนทางเท้าใกล้ลานจอดรถสถานบันเทิงสปีด มิวสิคฮอลล์ ทราบชื่อคือ นายเอกราช นิยมเหมาะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ 15 ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พนักงานโรงน้ำแข็งวรรณเทพ ถูกฟันด้วยอาวุธมีดที่ศีรษะ 1 แผล บาดแผลฉกรรจ์ กู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ สอบสวนพยานหลายปากทราบว่า ก่อนเกิดการณ์ยิงกันทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้บาดเจ็บ นั้น ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ฝ่ายละไม่น้อยกว่า 10 คน ยกพวกเข้าตะลุมบอนกันด้วยอาวุธปืน และมีด กลุ่มแรกอยู่บนถนนศิริรัฐ ใช้ปืนยิงใส่คู่กรณีที่กำลังเดินออกมาจากสถานบันเทิงในถนนศิริรัฐ อีกฝ่ายจึงใช้ปืนยิงโต้กลับ เสียงปืนดังสนั่นหลายนัด จากนั้นวัยรุ่น ทั้ง 2 ฝ่าย จึงกรูเข้าตะลุมบอนกัน นักท่องเที่ยวที่กำลังกลับบ้านแตกตื่นวิ่งหนีกระเจิง กระทั่งทั้ง 2 กลุ่มที่ก่อเหตุเห็นตำรวจสายตรวจมาระงับเหตุ จึงแยกย้ายขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีอย่างรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ออกสืบสวนติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งขอภาพวิดีโอวงจรปิดในพื้นที่ที่บันทึกภาพแกะรอยจนสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องสงสัยก่อเหตุมาได้ทั้งหมด พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ปืนปากกา 1 กระบอก อาวุธมีดอีก 2 เล่ม ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้รุดสอบถามกลุ่มเยาวชนที่ร่วมกันก่อเหตุด้วยตนเอง
นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก่อเหตุอย่างอุกอาจกลางเมืองซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นที่สาธารณะ ซึ่งอาจมีคนถูกลูกหลงได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง รวมทั้งฝ่ายปกครองคงยอมไม่ได้ และติดตามจับกุมทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการจับกุมได้อย่างรวดเร็ว จึงให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และส่งฟ้องศาลต่อไป
