xs
xsm
sm
md
lg

มอบตัวแล้วโจ๋ก่อเหตุทำร้ายคู่อริในโรงพยาบาล เหลืออีก 1 ราย ตร.รู้ตัวแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - มอบตัวต่อตำรวจแล้ว 1 ราย วัยรุ่นบุกทำร้ายร้ายคู่อริในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินโรงพยาบาลที่ชุมพร ตร.เผยรู้ตัวผู้ร่วมก่อเหตุแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตะลุมบอนกันที่บนถนนศาลแดง เขตเทศบาลเมืองชุมพร ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หลังจากนั้น กลุ่มคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปเจอกันอีกครั้งในห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอีกฝ่ายพวกมากกว่าจึงเข้าไปรุมทำร้ายคู่กรณีภายในห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน ขณะที่แพทย์ พยาบาลกำลังรักษาผู้บาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 19 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา และได้มีคนใช้มือถือถ่ายคลิปวิดีโอนำไปลงสื่อออนไลน์ จนกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานพยาบาลของรัฐ

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) ได้มีผู้ปกครองได้นำตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งเข้ามามอบตัวต่อ ร.ต.อ.ธนเทพ สุวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับทำประวัติ โดยนายเอ เป็นหนึ่งในบุคคลตามคลิปวิดีโอที่เป็นผู้ลงมือบุกเข้าไปชกต่อยคู่กรณีที่กำลังยืนดูเพื่อนที่บาดเจ็บอยู่บนเตียงฉุกเฉินภายในห้องดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น บุกรุกสถานที่ราชการ พร้อมกับส่งตัวให้สหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำที่ศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดชุมพร

โดยนายเอ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ตนทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะเกิดจากความโมโหที่พวกตนไปเที่ยวแล้วมาถูกดักรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อไปเจอคู่กรณีจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ตนรู้สึกผิด และเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

พ.ต.ท.กลศ นันทวิสุทธิ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องเดียวกันแต่แยกเป็น 2 กรณี คือ เรื่องของการทะเลาะวิวาทกันเหตุเกิดบนถนนในตัวเมืองชุมพร คดีนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ส่วนอีกกรณีคือ ร่วมทำร้ายร่างกาย และบุกรุกสถานที่ราชการ เหตุเกิดที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ คดีนี้จากคลิปวิโอมีผู้ก่อเหตุจริงเพียง 2 คน คือ เยาวชนที่มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ กับอีก 1 คน ที่ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าที่เป็นคนเข้าไปกระโดดถีบคู่กรณี ก่อนที่จะมีการห้ามปราบแล้วแยกย้ายกันออกไปจากโรงพยาบาล ซึ่งบุคคลดังกล่าวยังหลบหนีอยู่ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ทราบตัวหมดแล้วซึ่งกำลังติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น