ฉะเชิงเทรา - แก๊งโจ๋แต่งรถซิ่งรุมทำร้ายเยาวชนชายวัย 17 ปี จนเสียชีวิตริมถนนสายบางนา-ตราด ในเขตพื้นที่บางปะกง หลังงานวันไหลบางแสน ติดต่อขอเข้ามอบตัวเพิ่มเติมอีกหนึ่งรายแล้ว พบเป็นเยาวชนเช่นเดียวกัน ขณะตำรวจยังเดินหน้ากดดันอย่างหนัก โดยขอให้ผู้ร่วมก่อเหตุอีกเกือบสิบคนเดินทางเข้ามามอบตัว เผยหากปล่อยเวลาผ่านเลยไปเนิ่นนานจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผกก.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันมาจากในงานเทศกาลวันไหลบางแสน จ.ชลบุรี และขับรถไล่ติดตามกันมาจนทันที่บริเวณริมทางคู่ขนาน ถนนสายบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาเข้าหลัก กม.ที่ 49 ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจำนวนหลายสิบคนจะกรูตรงเข้ารุมทำร้ายกันจนอีกฝ่ายที่มีจำนวนน้อยกว่าพากันวิ่งหลบหนีไป และมีเยาวชนชายวัย 17 ปี ที่สะดุดก้อนหินหกล้มถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านไปนั้น
ล่าสุด เมื่อคืนวานนี้ ได้มีเยาวชนชายซึ่งอายุไม่ถึง 18 ปี ได้ติดต่อมายังทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง เจ้าของคดี เพื่อขอเดินทางเข้ามามอบตัวอีกหนึ่งรายแล้ว ซึ่งยังอยู่ระหว่างการนัดหมายให้เข้ามาสอบปากคำพร้อมกันต่อหน้าสหวิชาชีพ ประกอบด้วย อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ตำรวจ ผู้ปกครอง และตัวเยาวชน มาให้ปากคำอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชนอยู่ จึงต้องรอนัดหมายให้มาพร้อมกัน หรือนัดหมายให้ไปทำการสอบปากคำในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังได้ลงพื้นที่ในการเดินหน้าเกลี้ยกล่อม และกดดันกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พากันสมัครใจเดินทางเข้ามาขอมอบตัวด้วยตนเอง ในช่วงเวลาระหว่างนี้ ก่อนที่จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับต่อไป หากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอแล้ว และจากภาพในกล้องวงจรปิดระหว่างเกิดเหตุนั้นพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เยาวชนวัย 17 ปี ที่เสียชีวิตถูกรุมทำร้ายจากคนนับร้อยคนรุมหนึ่งแต่อย่างใด
แต่เป็นการก่อเหตุวิวาทที่มีการยกพวกกรูเข้ารุมชกต่อยกันก่อน โดยกลุ่มของผู้ตายนั้นมีคนประมาณ 10 คน ส่วนกลุ่มคู่กรณีนั้นมีมากกว่าจึงสู้ไม่ได้ ก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนี ซึ่งประเด็นนี้ทางญาติของผู้ตายได้ตั้งข้อสงสัย และข้องใจมาโดยตลอด เนื่องจากไปหลงเชื่อตามกระแสข่าวผ่านทางโลกโซเชียล และสื่อบางแขนง แต่เมื่อทางตำรวจได้เปิดภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุที่บันทึกเก็บภาพไว้ได้ให้ดูแล้ว ทางญาติของผู้ตายจึงเชื่อว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาทกัน แบบที่มีการกรูเข้าไปตะลุมบอนกันก่อนจริงๆ ไม่ใช่การถูกรุมทำร้ายแต่เพียงลำพังแต่อย่างใด ทางญาติของผู้เสียชีวิตจึงได้คลายความสงสัยลงได้
ส่วนการที่จะออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีกนับ 10 คนนั้น ภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดยังไม่ชัดเจนเพียงพอ เนื่องจากเป็นมุมไกลมาก และในกลุ่มเพื่อนๆ ของผู้ตายเองนั้นก็ต่างพยายามที่จะพากันวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดกันหมดทุกคน จึงไม่มีใครจดจำใบหน้าของกลุ่มคู่กรณีที่เข้ามาร่วมกันทำร้ายได้อย่างชัดเจน โดยภาพที่เห็นนั้นทางญาติของผู้ตายจำได้เพียงเสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่มาในวันเกิดเหตุได้เท่านั้น จึงยังต้องรอพยานหลักฐานด้านอื่นๆ ที่สามารถยืนยันตัวคนที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุได้อย่างชัดเจนจนสามารถชี้ตัวได้ก่อนจึงจะออกหมายจับได้ต่อไป
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผกก.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันมาจากในงานเทศกาลวันไหลบางแสน จ.ชลบุรี และขับรถไล่ติดตามกันมาจนทันที่บริเวณริมทางคู่ขนาน ถนนสายบางนา-ตราด ด้านฝั่งขาเข้าหลัก กม.ที่ 49 ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจำนวนหลายสิบคนจะกรูตรงเข้ารุมทำร้ายกันจนอีกฝ่ายที่มีจำนวนน้อยกว่าพากันวิ่งหลบหนีไป และมีเยาวชนชายวัย 17 ปี ที่สะดุดก้อนหินหกล้มถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านไปนั้น
ล่าสุด เมื่อคืนวานนี้ ได้มีเยาวชนชายซึ่งอายุไม่ถึง 18 ปี ได้ติดต่อมายังทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปะกง เจ้าของคดี เพื่อขอเดินทางเข้ามามอบตัวอีกหนึ่งรายแล้ว ซึ่งยังอยู่ระหว่างการนัดหมายให้เข้ามาสอบปากคำพร้อมกันต่อหน้าสหวิชาชีพ ประกอบด้วย อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ตำรวจ ผู้ปกครอง และตัวเยาวชน มาให้ปากคำอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชนอยู่ จึงต้องรอนัดหมายให้มาพร้อมกัน หรือนัดหมายให้ไปทำการสอบปากคำในสถานที่ที่เหมาะสมต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังได้ลงพื้นที่ในการเดินหน้าเกลี้ยกล่อม และกดดันกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พากันสมัครใจเดินทางเข้ามาขอมอบตัวด้วยตนเอง ในช่วงเวลาระหว่างนี้ ก่อนที่จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับต่อไป หากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอแล้ว และจากภาพในกล้องวงจรปิดระหว่างเกิดเหตุนั้นพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เยาวชนวัย 17 ปี ที่เสียชีวิตถูกรุมทำร้ายจากคนนับร้อยคนรุมหนึ่งแต่อย่างใด
แต่เป็นการก่อเหตุวิวาทที่มีการยกพวกกรูเข้ารุมชกต่อยกันก่อน โดยกลุ่มของผู้ตายนั้นมีคนประมาณ 10 คน ส่วนกลุ่มคู่กรณีนั้นมีมากกว่าจึงสู้ไม่ได้ ก่อนที่จะพากันวิ่งหลบหนี ซึ่งประเด็นนี้ทางญาติของผู้ตายได้ตั้งข้อสงสัย และข้องใจมาโดยตลอด เนื่องจากไปหลงเชื่อตามกระแสข่าวผ่านทางโลกโซเชียล และสื่อบางแขนง แต่เมื่อทางตำรวจได้เปิดภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุที่บันทึกเก็บภาพไว้ได้ให้ดูแล้ว ทางญาติของผู้ตายจึงเชื่อว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาทกัน แบบที่มีการกรูเข้าไปตะลุมบอนกันก่อนจริงๆ ไม่ใช่การถูกรุมทำร้ายแต่เพียงลำพังแต่อย่างใด ทางญาติของผู้เสียชีวิตจึงได้คลายความสงสัยลงได้
ส่วนการที่จะออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุอีกนับ 10 คนนั้น ภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดยังไม่ชัดเจนเพียงพอ เนื่องจากเป็นมุมไกลมาก และในกลุ่มเพื่อนๆ ของผู้ตายเองนั้นก็ต่างพยายามที่จะพากันวิ่งหลบหนีเอาตัวรอดกันหมดทุกคน จึงไม่มีใครจดจำใบหน้าของกลุ่มคู่กรณีที่เข้ามาร่วมกันทำร้ายได้อย่างชัดเจน โดยภาพที่เห็นนั้นทางญาติของผู้ตายจำได้เพียงเสื้อผ้าที่ผู้ตายสวมใส่มาในวันเกิดเหตุได้เท่านั้น จึงยังต้องรอพยานหลักฐานด้านอื่นๆ ที่สามารถยืนยันตัวคนที่ร่วมกันลงมือก่อเหตุได้อย่างชัดเจนจนสามารถชี้ตัวได้ก่อนจึงจะออกหมายจับได้ต่อไป