หนองคาย - หญิงวัย 42 ปี ชาวหนองคาย เหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินสูญกว่า 116,964 บาท อ้างเป็นตำรวจกองปราบฯ จะช่วยแก้ปัญหาเงินในบัญชี แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงิน โร่พึ่งทหารและศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามเงิน และเตือนสติผู้อื่นไม่ตกเป็นเหยื่อ
วันนี้ (19 ก.ย. 59) เมื่อเวลา 15.00 น. นางกาญดา ม่วงผุย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 1 ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก ร.อ.จำนงค์ แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการกองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย, นายโสภณ ทองโสภา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการศูนย์ดำรงธรรม จ.หนองคาย และนายนุพล ศรีสุวรรณ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ศูนย์ดำรงธรรม จ.หนองคาย
นางกาญดากล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ส.ค. 59 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.00 น. มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย โทร.มาแจ้งว่าบัญชีเงินฝากของตนถูกโจรกรรม มีการโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรเอทีเอ็มให้ตนไปแจ้งความตำรวจ จากนั้นไม่นานได้รับสายโทรศัพท์ที่ 2 เป็นผู้ชายและเป็นตำรวจยศสารวัตรกองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร.มาสอบถามข้อมูลส่วนตัวและทราบว่าตนถูกโจรกรรมข้อมูลซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาให้ โดยได้สอบถามตนถึงข้อมูลเงินในบัญชีธนาคารว่ามีมากน้อยเท่าใด ด้วยความตกใจไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนและไม่ได้เอะใจสงสัยแต่อย่างใด ได้บอกข้อมูลทั้งหมดให้ชายคนนั้นทราบ จากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจบอกตนรีบไปยังตู้เอทีเอ็มใกล้บ้านเพื่อนำเงินมาตรวจสอบความถูกต้อง ตนจึงชวนแฟนให้พามายังปั๊มน้ำมันในเขต อ.โพนพิสัย ระหว่างทางชายคนดังกล่าวก็โทรศัพท์พูดคุยด้วยตลอด
เมื่อมาถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ชายคนนั้นให้ตนนำเอทีเอ็มของ ธ.ก.ส.ที่ตนมีเงินในบัญชีอยู่มากที่สุดมาทำรายการตามที่บอก กดปุ่มตู้ให้เร็วที่สุด โดยหน้าจอตู้เอทีเอ็มเป็นภาษาจีน ตนทำตาม 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 ชายคนดังกล่าวให้ตนถอนเงินสดออกมา 58,000 บาท ให้นำไปฝากใส่เครื่องฝากเงินอัตโนมัติของธนาคารกสิกรไทย ตนก็ต้องเดินทางไปยังธนาคารกสิกรไทย สาขาโพนพิสัยอีก และทำรายการตามที่บอก โดยนำเงินใส่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติ 58,000 บาท เครื่องตีกลับ 1,000 บาท ทำให้ฝากเงินเข้าตู้ได้ 57,000 บาท
จากนั้นชายคนดังกล่าวบอกว่า ช่วงบ่ายตนจะได้เงินคืนส่งเข้าบัญชีธนาคารทั้งหมดแล้ววางสายไป หลังจากนั้นตนจึงโทรศัพท์เล่าให้ลูกสาวฟัง ลูกสาวบอกว่าตนถูกหลอกแล้วจึงตกใจมาก รีบโทร.กลับไปหาชายคนดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อได้ และได้เอาสมุดบัญชีเงินฝากของ ธ.ก.ส.ไปปรับสมุดก็พบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปรวมทั้งสิ้น 116,964 บาท จึงรู้ว่าถูกหลอกจริงจึงไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.โพนพิสัย ทางตำรวจได้ประสานกับธนาคารกรุงเทพ ทราบว่าเงินที่ตนโอนไปนั้นไปอยู่ในบัญชีของนายประหยัด ดอนราชลี สาขาเทสโก้ โลตัส สกลนคร 1 ครั้ง จำวน 9,988.22 บาท, บัญชีของนายกาไสย เหง้าสุวรรณ สาขาสกลนคร 2 ครั้ง จำนวน 49,976.44 บาท และเงินสด 57,000 บาท โอนผ่านตู้อัตโนมัติเป็นบัญชีของนายยุทธ สิงห์กาฬ สาขาอุดรธานี การมาขอความช่วยเหลือให้ทหารและศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามเงินที่ถูกหลอกไปครั้งนี้ แม้รู้ว่าจะได้คืนยากแต่ก็อยากให้ช่วย เพราะเป็นเงินก้อนเดียวของครอบครัวที่เก็บไว้ใช้หนี้ ธ.ก.ส. และเก็บไว้ให้ลูกเรียน อีกทั้งอยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นไม่ให้ถูกหลอกเช่นตนอีก
ด้านนายโสภณ ทองโสภา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการศูนย์ดำรงธรรม จ.หนองคาย กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้และทำหนังสือถึงตำรวจ สภ.โพนพิสัย ให้ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างต่อเนื่อง