ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่ตู้เอทีเอ็มกรุงไทย ร้านอะไหล่รถยนต์ในพื้นที่หนองพลับ ที่ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนเจาะประตูเข้าไปพยายามเจาะตู้เอทีเอ็ม เงินในตู้ 2.5 ล้านบาทเกือบสูญ พร้อมสั่งคุมเข้มตู้เอทีเอ็มในจุดเสี่ยง เตรียมประสานเรื่องระบบเตือนภัยกับทุกธนาคาร
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนตัดประตูเหล็กม้วนเข้าไปในอาคารพาณิชย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ในพื้นที่ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพยายามเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ซึ่งติดตั้งไว้บริเวณหน้าอาคาร โดยคนร้ายพยายามใช้แก๊สเป่าด้านหลังตู้เอทีเอ็มซึ่งเป็นที่เก็บเงินจนเสียหายประมาณ 40% แต่คนร้ายไม่สามารถนำเงินจำนวนเกือบ 2.5 ล้านบาท ออกไปได้
ล่าสุด วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.ท.สนั่น ศิริมงคล รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.บ้านหนองพลับ กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาเก็บตรวจสอบรอยนิ้วมือร่องรอยคนร้าย และวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมทั้งได้สั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆ จุดเกิดเหตุอย่างน้อย 2 จุด และสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 3- 4 ราย ขณะนี้ยังไม่ทราบตัว และจำนวนคนร้ายที่ก่อเหตุว่ามีกี่คน
โดยในช่วงเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุช่วงกลางคืนเวลาประมาณ 22.30 น. ของคืนวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนกรณีมีชาวบ้านพบเห็นรถกระบะมาจอดบริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ได้สั่งให้ตรวจสอบแล้วเช่นกัน ซึ่งในที่เกิดเหตุไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด มีเพียงกล้องวงจรปิดที่อยู่ในตู้เอทีเอ็มที่จะเห็นหน้าคนที่มาให้บริการหน้าตู้เอทีเอ็มเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.ตรีกษณะ แจ่มสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีคนร้ายพยายามเข้าไปเจาะเซฟตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ในพื้นที่ สภ.หนองพลับ ได้สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบ เบื้องต้น ได้มีการประสานข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงต่อการก่อเหตุงัดตู้เซฟของธนาคารกรุงเทพ สาขาชะอำ จังหวัดเพชรบุรี กับทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรีหรือไม่ด้วย
“ขณะนี้ก็ยังไม่พบว่าคนร้ายมีความเกี่ยวข้องกัน พร้อมกันนี้ ได้สั่งการไปตำรวจทุกโรงพักในการคุมเข้มการดูแลรักษาความปลอดภัยตู้เอทีเอ็ม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการติดตั้งตู้เอทีเอ็มในจุดที่เป็นจุดเสี่ยง จุดเปลี่ยวยามค่ำคืน รวมทั้งได้ประสานงานไปยังบริษัทเอกชนรักษาความปลอดภัยตู้เอทีเอ็มของธนาคารในเรื่องของระบบการแจ้งเตือน เมื่อพบสิ่งผิดปกติ หรือมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น จะต้องรีบแจ้ง 191 ทันที เพื่อที่ตำรวจจะได้รีบเดินทางไปตรวจสอบโดยเร็วเช่นกัน โดยในเรื่องนี้อาจจะต้องมีการพูดคุยกับทุกธนาคารเช่นกัน” พล.ต.ต.ตรีกษณะ กล่าว และว่า
สำหรับกรณีที่คนร้ายพยายามใช้แก๊สเป่าตู้เก็บเงินจนเสียหายแต่ไม่สามารถนำเงินออกไปได้นั้นอาจจะเกิดได้หลายจากหลายสาเหตุ ทั้งแก๊สอาจจะหมด คนร้ายล่าถอยไปเองเพราะใช้เวลานานเกินไป กลัวมีคนมาเห็นเข้าเป็นต้น อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนจะลงพื้นที่ไปร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีที่ สภ.หนองพลับ ด้วย