เมื่อเวลา 00.30 น.(2 พ.ค.) ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่จากฝ่ายรักษาความปลอดภัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ว่า มีคนร้ายยกตู้เอทีเอ็มของธนาคาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ สาขาถนนกิ่งแก้ว ปากซอยกิ่งแก้ว 22/1 เลขที่ 60 หมู่ 3 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี หายไปทั้งตู้ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเข้าตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเพียงโครงตู้ที่ใช้ครอบตู้เอทีเอ็ม ส่วนตู้เอทีเอ็มด้านในมีเงินสดกว่า 2 ล้านบาท ได้หายไปทั้งตู้ ตรวจสอบพื้นด้านล่างพบว่าคนร้ายใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ามาตัดน็อตที่ยึดตู้ไว้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงทำการเก็บหลักฐานและลายนิ้วเมืองแฝงบริเวณโครงตู้เอทีเอ็ม
สอบสวนนายจิรภาส ศิวจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่รับผิดชอบตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ให้การว่า เวลาประมาณ 02.50 น.ของวันที่ 1 พฤษภาคม สัญญาณออนไลน์ของตู้เอทีเอ็มตู้ดังกล่าวขาดหายไป ตอนแรกคิดว่าอาจจะเป็นเพราะสายโทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่อสัญญาณขาด เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวมีอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าบ่อยครั้ง ทำให้สายโทรศัพท์ขาดอยู่เป็นประจำ กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.วันเดียวกัน ได้รับแจ้งจากศูนย์ใหญ่ให้มาตรวจสอบที่จุดดังกล่าว เนื่องจากสัญญาณออนไลน์ขาดหายไปนาน จึงพบว่าตู้เอทีเอ็มได้หายไป และจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ในเวลาใกล้เคียงกับที่สัญญาณออนไลน์ขาดหายไป มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน มาจอดริมถนนหน้าสำนักงานตรงจุดที่วางตู้เอทีเอ็ม และมีคนมากกว่า 1 คนนั่งอยู่ในรถ แต่ผู้พบเห็นไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบข่าวว่าตู้เอทีเอ็มได้ถูกคนร้ายยกหายไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าสำนักงานและตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี พร้อมทั้งเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ในคืนนั้นมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุในจังหวัดชลบุรีหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนอีกครั้ง
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเพียงโครงตู้ที่ใช้ครอบตู้เอทีเอ็ม ส่วนตู้เอทีเอ็มด้านในมีเงินสดกว่า 2 ล้านบาท ได้หายไปทั้งตู้ ตรวจสอบพื้นด้านล่างพบว่าคนร้ายใช้อุปกรณ์ไฟฟ้ามาตัดน็อตที่ยึดตู้ไว้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงทำการเก็บหลักฐานและลายนิ้วเมืองแฝงบริเวณโครงตู้เอทีเอ็ม
สอบสวนนายจิรภาส ศิวจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่รับผิดชอบตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ให้การว่า เวลาประมาณ 02.50 น.ของวันที่ 1 พฤษภาคม สัญญาณออนไลน์ของตู้เอทีเอ็มตู้ดังกล่าวขาดหายไป ตอนแรกคิดว่าอาจจะเป็นเพราะสายโทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่อสัญญาณขาด เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวมีอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าบ่อยครั้ง ทำให้สายโทรศัพท์ขาดอยู่เป็นประจำ กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น.วันเดียวกัน ได้รับแจ้งจากศูนย์ใหญ่ให้มาตรวจสอบที่จุดดังกล่าว เนื่องจากสัญญาณออนไลน์ขาดหายไปนาน จึงพบว่าตู้เอทีเอ็มได้หายไป และจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า ในเวลาใกล้เคียงกับที่สัญญาณออนไลน์ขาดหายไป มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบทะเบียน มาจอดริมถนนหน้าสำนักงานตรงจุดที่วางตู้เอทีเอ็ม และมีคนมากกว่า 1 คนนั่งอยู่ในรถ แต่ผู้พบเห็นไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบข่าวว่าตู้เอทีเอ็มได้ถูกคนร้ายยกหายไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าสำนักงานและตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี พร้อมทั้งเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์ในคืนนั้นมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุในจังหวัดชลบุรีหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนอีกครั้ง