ประจวบคีรีขันธ์ - รอง ผบก.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกประชุมตำรวจ สภ.บ้านหนองพลับ ติดตามความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนพยายามเจาะตู้เอทีเอ็มกรุงไทยในพื้นที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ล่าสุดตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นพบสัญญาณถูกตัดขาดเมื่อประมาณเที่ยงคืนครึ่ง แต่ไม่มีการแจ้งตำรวจเข้ามา ขณะที่เจ้าของอาคารพาณิชย์ระบุว่าตู้เอทีเอ็มดังกล่าวมีปัญหาเสียบ่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนตัดประตูเหล็กม้วนเข้าไปในอาคารพาณิชย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ในพื้นที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพยายามเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ซึ่งติดตั้งไว้บริเวณหน้าอาคาร โดยคนร้ายพยายามใช้หัวเป่าแก๊สด้านหลังตู้เอทีเอ็มซึ่งเป็นที่เก็บเงินจนเสียหายประมาณ 40% แต่คนร้ายไม่สามารถนำเงินจำนวนเกือบ 2.5 ล้านบาทออกไปได้
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (10 พ.ค.59) พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีเพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุและรถยนต์ต้องสงสัย โดยมี พ.ต.ท.ไมตรี โตวิเศษ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม รักษาการณ์ผู้กำกับ สภ.บ้านหนองพลับ, พต.ท.สนั่น ศิริมงคล รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.บ้านหนองพลับ และชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 รายงานความคืบหน้าของคดี
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อและร้านค้าในพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุไปได้หลายจุด แต่ทั้งนี้ในแต่ละจุดยังอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุเกินไปจึงยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ซึ่งรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เน้นย้ำให้ขยายพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีเพิ่มเติมด้วย
พ.ต.อ.บุญธรรม วรรณรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว พร้อมทั้งตรวจสอบพยานหรือผู้ที่อาจจะเห็นเหตุการณ์เพิ่มเติม สำหรับตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยแห่งนี้ติดตั้งมานานกว่า 4 ปี โดยติดตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะเคยมาดูลาดเลา หรือดูต้นทางไว้ก่อน เมื่อสบโอกาสจึงลงมือ โดยคนร้ายมีจุดประสงค์ชัดเจนในการเจาะตู้เอทีเอ็มเพื่อเอาเงิน ไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินอื่นๆ ของทางร้านอะไหล่ยนต์เลย
"จากการตรวจสอบข้อมูลของระบบสัญญาณเตือนภัยที่กรุงเทพฯ พบว่าในคืนวันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สัญญาณเตือนภัยจากตู้เอทีเอ็มกรุงไทยถูกตัดขาด แต่พบว่าไม่มีการแจ้งมายังตำรวจภูธร สภ.บ้านหนองพลับ จนกระทั่งเช้าจึงมีคนพบเห็นความผิดปกติของประตูเหล็กม้วนที่ถูกเจาะเป็นช่อง จึงพบว่าคนร้ายพยายามให้หัวเป่าแก๊สเจาะตู้เอทีเอ็มแต่ไม่สำเร็จ"
ด้านนายธิติพันธ์ เสือจร อายุ 30 ปี เจ้าของร้านเอสทู อะไหล่รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตู้เอทีเอ็มดังกล่าวมีปัญหาค่อนข้างบ่อย สัญญาณเตือนภัยดังอยู่บ่อยครั้งจนทำให้ต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่มาแก้ไขเป็นประจำ ด้วยระบบของตู้เอทีเอ็มจะมีระบบรักษาความปลอดภัยเมื่อเครื่องถูกสั่นสะเทือน หรือมีการงัดแงะ ทำให้บางครั้งเมื่อมีรถบรรทุกสิบล้อวิ่งผ่านสัญญาณเตือนภัยก้อจะดัง ระบบจะล็อค ซึ่งเป็นบ่อยครั้งมาก
"ผมเคยบอกให้เจ้าหน้าที่นำตู้เอทีเอ็มมาเปลี่ยน เนื่องจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าวอาจจะใช้งานมานานเป็นรุ่นเก่า ระบบอาจจะเริ่มรวน ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มเมื่อครบ 5 ปี ซึ่งก็ใกล้ครบกำหนดในอีกไม่กี่เดือน ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่าจากสาเหตุที่ตู้เอทีเอ็มตู้นี้เสียบ่อยทำให้เมื่อสัญญาณถูกตัดจึงอาจคิดว่าเป็นอาการเสียตามปกติ"