MGR Online - กองปราบปรามรวบ 2 สาวไทยร่วมมือกับสามีชาวไนจีเรียตั้งแก๊ง “โรแมนซ์สแกม” ลวงสาวไทยแต่งงานกว่า 100 ราย ทำนานกว่า 1 ปี ได้เงินกว่า 20 ล้านบาท
วันนี้ (15 ก.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อภิชาติ อภิชานนท์ พ.ต.ท.เมธา วงศ์อนันต์นนท์ รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุวนัย พิทักษ์ สว.กก.3 บก.ป. แถลงผลจับกุม “แก๊งโรแมนซ์สแกม” ประกอบด้วย นายชินากา ชินีดู อายุ 23 ปี สัญชาติไนจีเรีย และ น.ส.อุราภรณ์ เกสะวัฒนะ อายุ 34 ปี สามีภรรยา ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.977/2559 ลงวันที่ 8 กันยายน 2559 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง พร้อมของกลางบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ จำนวน 5 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จับกุมได้ที่ร้านซ่อมแอร์รถยนต์ ซอยสวัสดิการ 23 ถนนเพชรเกษมซอย 77 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.
พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายมีพฤติการณ์ติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหายชาวไทยทั้งหญิงและชาย ตามเว็บไซด์หาเพื่อนหาคู่หลายๆ แห่ง โดยหากเป็นผู้หญิง นายชินากาก็จะหลอกลวงว่าเป็นหนุ่มชาวต่างชาติผิวขาว หน้าตาและฐานะดี เข้ามาจีบ เมื่อพูดคุยทำความรู้จักกันพักหนึ่งแล้วก็อ้างว่าต้องการจะแต่งงานด้วยโดยจะเดินทางมาประเทศไทย แต่ก่อนจะมาก็ได้อ้างว่าส่งของขวัญให้ผู้เสียหายแล้วแต่ติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ภายในมีเงินสดหลายหมื่นดอลลาร์สหรัฐ หากต้องการจะนำสินค้าดังกล่าวออกมาต้องจ่ายเงินสินบนให้เจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน และเจ้าหน้าที่ศุลกากร โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเป็นเงินประมาณ 3-5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยนับล้านบาท ตลอด 1 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลงเชื่อถูกหลอกลวงไม่ต่ำกว่า 100 คน ต้องสูญเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขตกล่าวต่อว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้รับการประสานข้อมูลจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สุวรรณภูมิ เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ทางชุดสืบสวน กก.3 บก.ป.จึงเร่งแกะรอย โดยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้เสียหายมีการติดต่อกับกลุ่มผู้ต้องหา และมีการใช้แอปพลิเคชันไลน์ ID : cargo 12 จากนั้นได้ขยายผลตรวจสอบไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ที่มีการรับโอนเงินจากเหยื่อ ทำให้ทราบว่า น.ส.อุราภรณ์กับพวกร่วมกันกระทำผิดโดยแบ่งหน้าที่กัน ซึ่งทาง น.ส.อุราภรณ์รับหน้าที่ติดต่อพูดคุยกับเหยื่อ และเป็นผู้เบิกถอนเงินที่ได้รับการโอนเข้ามาแล้ว ก่อนจะแบ่งเงินบางส่วนไปยังผู้ร่วมขบวนการที่ประเทศมาเลเซีย โดยขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลการจับกุมแล้ว
สอบสวน น.ส.อุราภรณ์รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะนี้มาประมาณกว่า 1 ปี โดยก่อนหน้านี้ได้รู้จักและอยู่กินกับนายชินากา สามีชาวไนจีเรีย ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นผู้สอนวิธีการหลอกลวงเหยื่อ และเมื่อได้เงินจากการหลอกลวงมาแล้วก็จะนำมาแบ่งกัน ส่วนสามีตนจะเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศไทยและมาเลเซียหลายครั้งเนื่องจากเป็นนักฟุตบอลอาชีพเคยเข้ารับการคัดเลือกตัวกับสโมสรฟุตบอลหลายแห่ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาดำเนินคดีต่อ น.ส.อุราภรณ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และดำเนินคดีต่อนายชินากา เพิ่มเติมในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากำหนด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป