MGR Online - ชายปริศนาหลังสักยันต์ กดเงินตู้เอทีเอ็มกสิกรไทยสาขาจตุจักรไม่ได้ ใช้ท่อนเหล็กทุบพังเสียหายกว่า 2 แสนบาท ตำรวจคาดผู้ต้องสงสัยอาศัยอยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้นตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์
วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.ท.นพคุณ เสวกพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุคนร้ายทุบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย สาขาสวนจตุจักร ตั้งอยู่เลขที่ 1094/6-9 ถนนพหลโยธิน แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สน.บางซื่อ พ.ต.ท.พิชิต กอปรกิจงาม รอง ผกก.สส.สน.บางซื่อ กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ปลูกติดกัน 4 คูหา ความสูง 4 ชั้นครึ่ง ที่บริเวณชั้น 1 ประกอบกิจการธนาคารกสิกรไทย สาขาสวนจตุจักร ด้านข้างให้บริการตู้ปรับรายการสมุดบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ 1 เครื่อง ตู้ฝากเงินสดอัตโนมัติ 1 เครื่อง และตู้เอทีเอ็ม 2 เครื่อง รวม 4 เครื่อง ทั้งหมดเป็นตู้ของธนาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบว่าตู้ฝากเงินอัตโนมัติและตู้เอทีเอ็ม 1 เครื่องที่อยู่ถัดไป ถูกคนร้ายทุบเสียหาย สภาพหน้าจอแตกละเอียดจนเห็นแผงวงจรคอมพิวเตอร์ กระจกและใบสลิปตกเกลื่อนพื้น ขณะที่ส่วนเซฟของตู้ที่ใช้เก็บเงินไม่ถูกทุบเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดกั้นพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.เจริญกล่าวว่า เหตุดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จราจรของ สน.บางซื่อ ขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ สังเกตเห็นว่าตู้ฝากเงินสดและตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทย สาขาสวนจตุจักร ถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบเสียหายจำนวน 2 เครื่อง จึงแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารและบริเวณใกล้เคียง พบว่า เมื่อช่วง 04.00 น.ที่ผ่านมา มีผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น (บ็อกเซอร์) ไม่สวมรองเท้า สูงประมาณ 165-170 ซม. ตัดผมสั้นเกรียน รูปร่างท้วม ด้านหลังมีรอยสักยันต์ เดินมาพยายามกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มจุดที่เกิดเหตุ 2 ครั้ง แต่กดไม่ได้ ก่อนจะเดินกลับไปแล้วย้อนมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ถือท่อนเหล็ก ความยาวประมาณ 1 เมตรมาด้วย แล้วเดินวนไปมาโดยใช้ท่อนเหล็กดังกล่าวทุบตู้ฝากเงินและตู้เอทีเอ็มหลายครั้งเป็นเวลานาน ทำให้หน้าจอ ตัวอ่านบัตรเอทีเอ็ม ปุ่มกด และแผงวงจรระบบคอมพิวเตอร์เสียหาย 2 เครื่อง มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 แสนบาท ก่อนจะหลบหนีไปทางห้าแยกลาดพร้าว โดยที่ไม่ได้ทุบทำลายส่วนที่ใช้เก็บเงินของตู้ฝากเงินและตู้เอทีเอ็ม จึงไม่ได้เงินไป
พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยด้วยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาเบาะแสและสอบปากคำพยานแวดล้อมจนพอจะทราบรูปพรรณคนร้ายแล้ว คาดว่าเป็นคนละแวกดังกล่าว สำหรับสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า อาจจะเกิดจากการที่คนร้ายมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มแต่กดไม่สำเร็จ หรืออาจจะมีอาการมึนเมาร่วมด้วย จึงโมโหเดินกลับไปหาท่อนเหล็กมาทุบ ส่วนเรื่องต้องการเอาเงินออกจากตู้ด้วยหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด แต่คิดว่าถ้าทุบแล้วมีเงินออกมาคนร้ายก็คงนำเงินหนีไปด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ชุดสืบสวนจะได้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยตั้งข้อหาไว้เบื้องต้นคือทำให้เสียทรัพย์ หากจับกุมและสอบสวนแล้วพบว่ามีความประสงค์ต่อทรัพย์ด้วยก็จะแจ้งข้อหาพยายามลักทรัพย์เพิ่มต่อไป