MGR Online - ตร.แถลงรวบ 2 หนุ่มยูเครนปลอมบัตรเอทีเอ็ม ตระเวนกดเงินสดย่านราษฎร์บูรณะ-พระราม 2 พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมกว่า 81 ใบ คาดเป็นกลุ่มเดียวกันที่สร้างความเสียหายไว้เมื่อต้นปี 59 ร่วมล้านบาท
วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ณัฐจักร จันลา รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ และ พ.ต.ท.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายโอเล็กซ์ คัชมาร์ก (OLEG KACHMARYK) อายุ 19 ปี และนายอันเดร เลสชินสกี (ANDRLL LESHCHYNSKYI) อายุ 25 ปี ทั้งสองรายเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติยูเครน พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 81 ใบ เงินสด 100,000 บาท เสื้อที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ 1 ตัว และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมนายโอเล็กซ์ได้หลังนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ ก่อนขยายผลไปจับกุมนายอังเดรได้ที่จุดพักผู้โดยสารช่อง F3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ขณะจะขึ้นเครื่องบินกลับภูมิลำเนา
พล.ต.ต.มนตรีกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ชมรมธุรกิจบริการเอทีเอ็มไทย เข้ามาให้ข้อมูลกับฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ว่าพบชาวต่างชาติมีพฤติการณ์นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมาตระเวนกดเงินสดตามตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ถนนพระราม 2 และละแวกใกล้เคียง จำนวนหลายครั้ง ตนจึงสั่งการให้จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนพบหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดของตู้เอทีเอ็มจำนวน 6 แห่งบันทึกภาพนายโอเล็กซ์ขณะนำบัตรมากดเงินสดไว้ได้ เมื่อสะกดรอยตามจนพบตัว ทำให้ทราบว่านายโอเล็กซ์ และนายอันเดร เป็นนักท่องเที่ยวถือวีซ่าเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทยได้เพียง 10 วัน โดยเช่าห้องพักอยู่ในย่านถนนพระราม 2 จนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค. นายโอเล็กซ์ได้นำบัตรไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุขสวัสดิ์อีก ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้นก่อนยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ได้ ก่อนขยายผลติดตามไปจับกุมนายอังเดร เพื่อนร่วมขบวนการได้ในที่สุด
จากการสอบสวนนายโอเล็กซ์ผ่านล่ามชาวไทย ให้การยอมรับว่าตนและนายอันเดรถือวีซ่าเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยนาน 12 วัน เมื่อเดินทางมาถึงมีเพื่อนชาวยูเครนซึ่งติดต่อกันผ่านทางแอปพลิเคชันมือถือว่าจ้างให้เดินทางไปรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม โดยนัดหมายพบกันตามห้องน้ำห้างสรรพสินค้าริมถนนพระราม 2 เพื่อให้ตนนำมาตระเวนกดเงินสดหลายครั้ง ยอดรวมกันหลายแสนบาท โดยตนจะได้ค่าจ้างครั้งละ 6,000 บาท เป็นค่ากินอยู่ในระหว่างท่องเที่ยว ซึ่งการเดินทางมากดเงินสดจำนวน 100,000 บาท เที่ยวนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับประเทศยูเครนพร้อมนายอังเดรที่ไปรออยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกันในเที่ยวบินเวลา 01.00 น.วันที่ 20 พ.ค.แต่ก็มาถูกจับกุมตัวไว้ได้ก่อน
ด้าน พ.ต.อ.เจษฎากล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหามากนัก โดยเฉพาะนายอันเดรที่ให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับการกระทำดังกล่าว เนื่องจากขบวนการของแก๊งสกิมเมอร์นั้นต้องใช้การประสานข้อมูลกันหลายขั้นตอนกว่าการกระทำความผิดจะสำเร็จ ตั้งแต่การนำเครื่องสกิมเมอร์ไปติดตั้งตามตู้เอทีเอ็มเพื่อดึงข้อมูลในบัตรของผู้เสียหายไปใส่บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ทั้งนี้เชื่อว่าแก๊งผู้ต้องหาแก๊งนี้น่าจะทำกันมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2559 สร้างความเสียหายให้แก่ลูกค้าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในประเทศไทย ยอดเงินรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดให้ได้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้จะนำส่งพนักงานสอบสวน โดยแจ้งข้อหาร่วมกันมีและมีไว้ใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมโดยมิชอบโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ดำเนินคดีต่อไป