วธ.ภาคเอกชนกาฬสินธุ์เดินหน้าชนมาเฟียเตรียมเอกสารเปิดโปงพฤติกรรม

กาฬสินธุ์- “นิมิต รอดภัย” วธ.ภาคเอกชน เดินหน้าแฉต่อเปิดแผลพฤติกรรมจัดงาน ศิลปินไร้ศักดิ์ศรี ลั่นเตรียมเอกสารเปิดโปง ระบุมีผู้ใหญ่โทรคุย เพื่อนด่า แต่ไม่ท้อ ขอสางปัญหามาเฟียอิทธิพลให้จบ

กรณีเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเอกชน เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือประธาน คสช. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ส่งเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบผลการคัดเลือก นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ คนใหม่ ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นสมัยที่ 6 เพราะเชื่อว่าการกระทำนั้นเป็นการผิดระเบียบตาม พ.ร.บ.วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ.2553

โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ รู้เห็นเป็นใจ ขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบร้อย ซึ่งยังออกมาระบุว่าการคัดเลือกยังเป็นการฟอกประวัตินักการเมืองด้วย

ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ย.) นายนิมิต รอดภัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในการคัดเลือก ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ คนใหม่ ซึ่งตนได้ออกมาโต้แย้งสิทธิในความเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายภาคเอกชนนั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในการติดต่อประสานงาน แต่ก็ได้ทำการยื่นหนังสือไปยังศูนย์ดำรงธรรม

และยังได้ส่งหนังสือเป็นจดหมายลงทะเบียนไปหลายฉบับไปยังกระทรวง ทบวง กรม ที่ได้กำกับดูแลงานสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะหวังว่ากรณีนี้จะเป็นการช่วยปัดกวาดบ้าน รวมไปถึงกระทรวงวัฒนธรรม จะได้รู้ว่า เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลฯ มีความรู้และเข้าใจต่อคำว่าวัฒนธรรมมากน้อยเพียงใด

“ผมเคยร่วมงานและจัดงานหลายครั้ง กับนางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ล่าสุด มีการจัดงานที่บริเวณสวนสาธารณะกุดน้ำกิน ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ผมได้ชักชวนศิลปินพื้นบ้าน หมอลำมาแสดงร่วมในงาน กาฬสินธุ์ฉลอง 222 ปี แต่มีคนในสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กลับมาถามว่าจ้างมาราคาเท่าไหร่ ทั้งที่งานนี้ผมบอกไปแล้วว่าฟรี งานจังหวัดครั้งนี้เค้าต้องการมาแสดง ก็ไม่ยอมให้ศิลปินแสดง แต่ผมก็หาวิธีจนแสดงได้ สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องบอกเหตุได้ว่าในยุคนี้ ศิลปินจะไม่มีที่ยืนเพราะปัญหาการกีดกันและบุคลากรที่ทำงานไม่รู้รากเหง้าของวัฒนธรรมที่แท้จริง”

นายนิมิต กล่าวว่า ในการแต่งตั้งประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะเลือกเอาเฉพาะกลุ่มคนของตนเอง ซึ่งเมื่อตรวจย้อนหลังก็จะรู้ว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการบำนาญ กับนักการเมือง ที่ต้องการแสวงหาที่ยืนให้กับตัวเอง แต่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ที่ยืนกับ พ่อครู แม่ครู ศิลปินพื้นบ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน ถ้าไม่เชื่อก็ให้ผู้ใหญ่ ไปถามเจ้าหน้าที่วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ดูว่า รู้จักกลุ่มคนเหล่านี้รึเปล่า หรือไม่ก็ไปถามดูว่า ศิลปินแห่งชาติของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีใครบ้าง เอาความรู้เท่านี้ก็พอ

ดังนั้น สิ่งที่ต้องการคือการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ถ้ารู้ว่าทำผิดระเบียบ ก็ให้ออกมายอมรับแล้วเลือกกันใหม่ ไม่ใช่ว่าจะเที่ยวพูดกันไปว่า ตัวผมเป็นคนทำลายวัฒนธรรมของสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ บางทีเพื่อนก็โทรมาสอบถาม บางคนก็ต่อว่า ใช้คำพูดรุนแรง ถึงกับบอกว่าระวังจะไม่มีที่ยืนในสังคม

นายนิมิตกล่าวต่อว่าในทางกลับกัน ตนไม่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ จะเห็นดีเห็นงามกับพฤติกรรม ที่ไม่โปร่งใส โดยเฉพาะในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือประธาน คสช. ถ้าในวันนี้มีโอกาสแล้วไม่ทำ แล้วเราจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้อย่างไร จึงต้องขอโทษกับบุคคลที่ยังไม่เข้าใจตน

เพราะตนต้องการเพียงความถูกต้อง กับต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ตนยังได้เตรียมเอกสาร และเตรียมที่จะเขียนบทความเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมบุคลากร หรือคนภายในสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างละเอียดอีกด้วย