xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งตั้งกรรมการสอบปัญหาตั้งสภาวัฒนธรรม ชี้ผิดระเบียบเลือกใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเปิดอกเคลียร์ปัญหา
กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ เมืองน้ำดำสั่งตั้งกรรมการสอบเรื่องอื้อฉาวในสภาวัฒนธรรม ปิดห้องเชิญคู่กรณีเปิดใจพูดคุย สรุปต่างฝ่ายต่างยืนยันถูกต้อง แต่ผลตั้งประธานสภาค้านใจเครือข่าย สุดท้ายสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากผิดระเบียบให้เลือกตั้งใหม่

จากกรณีเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเอกชน ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือประธาน คสช. ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบปัญหาภายในสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ภายหลังเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 59 เกิดปัญหาในการปรึกษาหารือเพื่อคัดเลือกประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดคนใหม่ โดยระบุว่าเป็นการจัดตั้งที่ผิดระเบียบ และไม่เปิดกว้างให้บุคคลผู้มีความรู้ความสามารถ โดยเครือข่ายฯ อ้างว่าได้ทำการทักท้วงคัดค้านต่อนางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ก็ยังมีการปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย.) เวลา 09.00 น.ที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 7 นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เรียก นางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ว่าที่ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ นายนิมิต รอดภัย นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะเครือข่ายวัฒนธรรม ภาคเอกชน เข้าพูดคุยปัญหา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันหาทางออก เพราะต่างฝ่ายได้ยกเหตุผลในการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนจนนำไปสู่ความเสื่อมเสียชื่อเสียงของทางจังหวัด

ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ถือเป็นสภาฯ ที่จะเข้ามาร่วมกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ อีกทั้งยังเป็นองค์กรที่เชิดหน้าชูตาของบุคคลภายในสังคม
โดยการเปิดใจพูดคุยกันดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ได้เข้าไปรับฟังผลการพูดคุย โดยสรุปว่าทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้ผลการคัดเลือกเป็นไปตามระเบียบ และถูกต้อง จึงมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

นายวินัย วิทยานุกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การพูดคุยถือเป็นสิ่งที่ดีและเป็นเรื่องที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในกรณีปัญหาการร้องเรียนเพื่อให้ตรวจสอบ เนื่องจากเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเอกชน เชื่อว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส กระทำการผิดระเบียบ ซึ่งในส่วนของนางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้แจงว่าทุกอย่างเป็นไปตามมติ ส่วนกรณีนายชาญยุทธ โคตะนนท์ ก็เป็นผู้ถูกเสนอชื่อให้ได้รับเลือกตั้ง ที่ยังค้านไปถึงการดำรงตำแหน่งหลายสมัย หรือแม้แต่ยังมีตำแหน่งที่พันไปสู่กระบวนการตรวจสอบ เพราะนายชาญยุทธ โคตะนนท์ ยังมีตำแหน่งเป็นรองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ยังมีหน้าที่ในการตรวจสอบงบประมาณ เมื่อทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับกติกาคือความถูกต้องและเพื่อความดีงามแล้ว

นายวินัยกล่าวต่อว่า ตนได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีดังกล่าวโดยยืนจากต้นเรื่องนั่นคือการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยจะให้มีคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ 1 คณะ มีกรรมการ 3-5 คนที่เป็นส่วนราชการ จากนั้นก็จะทำการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน ซึ่งก็คงจะต้องใช้เวลาไม่เกิน 180 วันตามระเบียบ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายก็จะยอมรับผลการสอบสวน

ขั้นที่ 1 หากผลออกมาว่า การเลือกตั้งในที่ประชุมได้เป็นไปตามระเบียบใน พ.ร.บ.วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 แล้ว นางพรพิมล คงตระกูล วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็จะเซ็นรับรองรายงานการประชุม ให้ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและส่งไปยังสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ

แต่ผลประการที่ 2 หากออกมาว่าขั้นตอนการคัดเลือกนั้นผิดระเบียบ ตาม พ.ร.บ.วัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 นั้นผิดระเบียบ ก็ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์จัดการคัดเลือกใหม่เพื่อให้ตรงตามระเบียบ ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะยุติปัญหา โดยไม่มีการร้องเรียนกันอีกไม่ว่าจะเกิดผลการสอบสวนในกรณีใดๆ”

นายวินัยระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีในกระบวนการทำงานขับเคลื่อนประเทศไทยเพราะในขณะนี้ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือประธาน คสช. ได้มุ่งเน้นการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ ต้องมีหลักธรรมาภิบาล มีการบูรณาการเพื่อพัฒนาประเทศร่วมกัน แน่นอนว่าทุกคนมีเหตุผล แต่ต้องขึ้นอยู่บนความถูกต้อง กับมโนสำนึกของคนที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนขององค์กรต่างๆ

“กรณีนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ถือว่าแนวทางการผลักดันด้านประชารัฐ ทำให้ประชาชนได้เรียนรู้และเข้ามาตรวจสอบการทำงานของกลุ่มองค์กรหรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น