นอ.บางละมุง สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องหาต้นตอเอาผิดผู้ลอบทิ้งสารเคมีในเขตชุมชน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นอ.บางละมุง นำหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาลักลอบทิ้งสารเคมีในเขตชุมชน หวั่นซึมลงแหล่ง น้ำธรรมชาติ พร้อมปิดกั้นพื้นที่ห้ามใช้ประโยชน์เด็ดขาด ก่อนสั่งอายัดของกลาง พร้อมเร่งสืบหาต้นตอ เตรียมดำเนินคดีผู้ลักลอบดำเนินการ หากเข้าข่ายความผิดทิ้งวัตถุอันตราย

วันนี้ (29 ส.ค.) นายชาคร กัญจนะวัตตะ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์ระพี เพียวพานิชย์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี นายสมพล โนดไธสง อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่จากเททศบาลตำบลโป่ง และผู้เกี่ยวข้องได้เดินทางลงตรวจสอบบริเวณบ่อทรายเก่าใกล้แหล่งน้ำในเขตชุมชนบ้านนาเหมือง ม.5 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พากันร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ขนถ่ายถังสารเคมีกว่า 50 ใบ มากองทิ้งไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นสารชนิด “สไตรีน โมโนเมอร์” ที่มีกลิ่นฉุนรุนแรงและสารเคมียังไหลนองพื้น และซึมลงแหล่งน้ำ จนชาวบ้านหวาดระแวงว่าอาจส่งผลต่อสุขอนามัย

และหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจสอบก่อนทำการปิดกั้นพื้นที่ พร้อมเก็บตัวอย่างสารไปตรวจพิสูจน์ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการกว่า 3 อาทิตย์นั้น

นายชาคร เผยว่า ขณะที่คงยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าสารชนิดนี้เป็นสารที่ตรงกับฉลากที่ระบุไว้ที่ถังหรือ ไม่ แต่เบื้องต้นพบว่ามีกลิ่นฉุน และมีลักษณะคล้ายสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมการต่อเรือ ซึ่งอาจเป็นสารเคมีอันตราย แต่คงต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากกรมอุตสาหกรรมโรงงานอีกครั้ง

“หากพบเป็นสารต้องห้ามก็ต้องดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และโทษจำคุก 2 ปี แต่หากไม่เป็นสารอันตรายก็คงดำเนินการตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขต่อไป”

นายชาคร ยังเผยอีกว่า จะทำการบันทึกปากคำจากเจ้าของที่ดินเพื่อหาแหล่งต้นตอ หรือที่มาของคนที่นำสารดังกล่าวมาทิ้ง เพื่อนำมาตัวมาสอบข้อเท็จจริง พร้อมมอบหมายให้ท้องถิ่น และเจ้าของที่ดินเก็บกู้ถังเคมีไปไว้ในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำเพื่อรอการตรวจพิสูจน์ และป้องกันการไหลซึมลงสู่พื้นดิน เพราะบริเวณเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากอ่างเก็บน้ำ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจมีการรั่วซึม หรือถูกน้ำฝนพัดไหลลงไปในแหล่งน้ำอันจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้

ด้านเจ้าของที่ดินบริเวณจุดเกิดเหตุ (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำที่มีการขุดหน้าดินไปใช้ และมีแผนจะถมที่ดินเพื่อพัฒนา โดยประสานไปยังคนรู้จักให้นำขยะจำพวกเศษวัสดุ หิน ปูน ทราย หรือเศษไม้มากองถมไว้ ส่วนสารเคมีที่พบนั้น ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเพียงว่า จะนำถังสารเคมีมาทิ้ง แต่เป็นสารที่ไม่อันตรายเพราะแข็งตัวแล้ว ไม่มีกลิ่น และใช้งานไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบเรื่องของสารเคมี แต่จากการพูดคุยก็เห็นว่ามีลักษณะคล้ายพลาสติกแข็งธรรมดาจึงอนุญาต

อย่างไรก็ดี เมื่อพบว่าสารเหล่านี้อาจมีอันตรายก็พร้อมจะดำเนินการแก้ไข และจะประสานผู้นำสารมาทิ้งให้เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ต่อไป