“อดุลย์ แสงสิงแก้ว” จี้ทุกฝ่ายสอบเพิ่ม “เวิลด์พีซ วัลเล่ย์” รุกล้ำพื้นที่รัฐ ย้ำชัด ภบท.5 ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ แต่เป็นเพียงใบสำคัญรับเงินภาษีบำรุงท้องที่ ด้าน สภ.คลองหลวง แถลงผลดำเนินคดีผู้ชุมนุมขัดขวาง ดีเอสไอ ค้นวัดพระธรรมกาย รวม 9 คดี 3 หมวดความผิด พร้อมออกหมายเรียก นายก อบต.คลองสาม เกณฑ์ชาวบ้านชุมนุมป้อง “ธัมมี่” เตือนสาวกรีบถอนตัวก่อนตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา
วานนี้ (5 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ “เวิลด์พีซ วัลเล่ย์” เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่มีการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง เนื้อที่ 499 ไร่ ว่า นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำลังร่วมบูรณาการกับหลายหน่วยงาน เพื่อตรวจสอบทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เบื้องต้นมีความชัดเจนว่ามีการรุกล้ำที่เกิดขึ้นจริงแต่ขอให้รอผลสักระยะ ส่วนจะเรียกพื้นที่คืนหรือไม่นั้น ผู้เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาข้อเท็จจริงอยู่และจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (ผบ.สคส.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ภาพรวมในคดี พม. เป็นหน่วยงานหลักและมี สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ร่วมตรวจสอบด้วย ส่วน ดีเอสไอ มอบให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีการทำงานควบคู่ขนานกันไป รวมทั้งเตรียมประสานขอข้อมูลจาก พม. เพื่อช่วยตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดว่ามีบริเวณใดของ ศูนย์ปฏิบัติธรรม “เวิลด์พีช วัลเล่ย์” เขาใหญ่ มีการรุกล้ำพื้นที่ของรัฐหรือไม่
“ภบท.5 ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ เพราะเป็นเพียงใบสำคัญรับเงินภาษีบำรุงท้องที่เท่านั้น ฉะนั้นพื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นที่หลวงอยู่ ส่วน นค.3 ต้องตรวจสอบที่มาก่อนว่าออกชอบด้วยกฎหมายหรือไม่และต้องตรวจสอบบุคคลที่มีเอกสิทธิ์ตรงที่ดินนั้นว่าสามารถเปลี่ยน นค.3 เป็นโฉนดได้หรือไม่อย่างไร อีกทั้งยังต้องตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวคาบเกี่ยวกับแผนที่ระหว่างพื้นที่ ส.ป.ก. และ พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองหรือไม่ แต่ขณะนี้ ดีเอสไอ ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าว” พ.ต.ท.ประวุธ กล่าว
แถลงผลดำเนินคดีศิษย์ธรรมกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.10 น. ที่ ศูนย์ปฎิบัติการ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัฒน์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ถาวร กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่16 มิ.ย. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้นำหมายค้นของศาล เข้าทำการค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อดำเนินการจับกุมพระเทพญาณมหามุรี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร แต่ปรากฏว่าวันดังกล่าวมีมวลชนจำนวนหนึ่งเกาะกลุ่มชุมนุมอยู่ที่บริเวณประตูเข้าวัดพระธรรมกายทั้งประตู 5 และ 7 รวมทั้งถนนเลียบคลองแอน 2-3 อีกทั้งยังมีการนำรถยนต์ รถแบคโฮ รถบรรทุก และรถกอล์ฟ มาจอดขวางเส้นทางและประตูทางเข้าวัด ส่อให้เห็นเจตนาที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดการตามหมายค้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย มีทั้งหมดจำนวน 9 คดี แบ่งออกเป็น 3 หมวดความผิดคือ1.หมวดความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางทางสาธารณะจำนวน 7 คดี ยึดรถ 6 คัน เปรียบเทียบปรับไปแล้ว 6 คดี อีก 1 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน
2.หมวดความผิดเกี่ยวกับการครอบครองยุทธภัณฑ์ทหาร หรือลวดหนามหีบเพลง จำนวน 1 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากกรมอุตสาหกรรมทหารว่าเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหารหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 3.หมวดความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ ขัดขวางการเจ้าพนักงานและช่วยเหลือผู้กระทำความผิดจำนวน 1 คดี ยึดรถที่ใช้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำนวน 6 คัน ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ส่วนผู้ต้องหาอื่น ๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ
ออกหมายเรียกนายก อบต.คลองสาม
ด้าน พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.59 ได้ออกมาหมายเรียกให้ ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดเป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา จัดกิจกรรมการชุมนุมแสดงความเห็นปกป้องพระธัมมชโย ซึ่งเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ดังนั้นจึงขอเตือนพี่น้องประชาชนและคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย หากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเข้าค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ขออย่าให้ได้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมและอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาทางคดีอาญาซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พระธัมมชโย ยังคงอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย
“บิ๊กต๊อก” ลั่นใช้ ม.44 จับ “ธัมมี่”
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนมีความคิดเห็นตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการนำกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่หากมีความจำเป็นจะต้องใช้ อำนาจพิเศษ กรณีมาตรา 44 ก็จะใช้ดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการจับกุมพระธัมมชโยเป็นหลัก
วานนี้ (5 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ “เวิลด์พีซ วัลเล่ย์” เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่มีการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง เนื้อที่ 499 ไร่ ว่า นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กำลังร่วมบูรณาการกับหลายหน่วยงาน เพื่อตรวจสอบทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เบื้องต้นมีความชัดเจนว่ามีการรุกล้ำที่เกิดขึ้นจริงแต่ขอให้รอผลสักระยะ ส่วนจะเรียกพื้นที่คืนหรือไม่นั้น ผู้เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาข้อเท็จจริงอยู่และจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (ผบ.สคส.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ภาพรวมในคดี พม. เป็นหน่วยงานหลักและมี สำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ร่วมตรวจสอบด้วย ส่วน ดีเอสไอ มอบให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีการทำงานควบคู่ขนานกันไป รวมทั้งเตรียมประสานขอข้อมูลจาก พม. เพื่อช่วยตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดว่ามีบริเวณใดของ ศูนย์ปฏิบัติธรรม “เวิลด์พีช วัลเล่ย์” เขาใหญ่ มีการรุกล้ำพื้นที่ของรัฐหรือไม่
“ภบท.5 ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ เพราะเป็นเพียงใบสำคัญรับเงินภาษีบำรุงท้องที่เท่านั้น ฉะนั้นพื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นที่หลวงอยู่ ส่วน นค.3 ต้องตรวจสอบที่มาก่อนว่าออกชอบด้วยกฎหมายหรือไม่และต้องตรวจสอบบุคคลที่มีเอกสิทธิ์ตรงที่ดินนั้นว่าสามารถเปลี่ยน นค.3 เป็นโฉนดได้หรือไม่อย่างไร อีกทั้งยังต้องตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวคาบเกี่ยวกับแผนที่ระหว่างพื้นที่ ส.ป.ก. และ พื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองหรือไม่ แต่ขณะนี้ ดีเอสไอ ยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าว” พ.ต.ท.ประวุธ กล่าว
แถลงผลดำเนินคดีศิษย์ธรรมกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.10 น. ที่ ศูนย์ปฎิบัติการ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัฒน์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ถาวร กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่16 มิ.ย. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้นำหมายค้นของศาล เข้าทำการค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อดำเนินการจับกุมพระเทพญาณมหามุรี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร แต่ปรากฏว่าวันดังกล่าวมีมวลชนจำนวนหนึ่งเกาะกลุ่มชุมนุมอยู่ที่บริเวณประตูเข้าวัดพระธรรมกายทั้งประตู 5 และ 7 รวมทั้งถนนเลียบคลองแอน 2-3 อีกทั้งยังมีการนำรถยนต์ รถแบคโฮ รถบรรทุก และรถกอล์ฟ มาจอดขวางเส้นทางและประตูทางเข้าวัด ส่อให้เห็นเจตนาที่จะขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดการตามหมายค้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย มีทั้งหมดจำนวน 9 คดี แบ่งออกเป็น 3 หมวดความผิดคือ1.หมวดความผิดเกี่ยวกับการกีดขวางทางสาธารณะจำนวน 7 คดี ยึดรถ 6 คัน เปรียบเทียบปรับไปแล้ว 6 คดี อีก 1 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน
2.หมวดความผิดเกี่ยวกับการครอบครองยุทธภัณฑ์ทหาร หรือลวดหนามหีบเพลง จำนวน 1 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากกรมอุตสาหกรรมทหารว่าเป็นยุทธภัณฑ์ทางทหารหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 3.หมวดความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะ ขัดขวางการเจ้าพนักงานและช่วยเหลือผู้กระทำความผิดจำนวน 1 คดี ยึดรถที่ใช้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จำนวน 6 คัน ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน ส่วนผู้ต้องหาอื่น ๆ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ
ออกหมายเรียกนายก อบต.คลองสาม
ด้าน พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.59 ได้ออกมาหมายเรียกให้ ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดเป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา จัดกิจกรรมการชุมนุมแสดงความเห็นปกป้องพระธัมมชโย ซึ่งเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ดังนั้นจึงขอเตือนพี่น้องประชาชนและคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย หากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเข้าค้นวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ขออย่าให้ได้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ทั้งทางตรงและทางอ้อมและอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาทางคดีอาญาซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พระธัมมชโย ยังคงอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย
“บิ๊กต๊อก” ลั่นใช้ ม.44 จับ “ธัมมี่”
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนมีความคิดเห็นตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการนำกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่หากมีความจำเป็นจะต้องใช้ อำนาจพิเศษ กรณีมาตรา 44 ก็จะใช้ดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการจับกุมพระธัมมชโยเป็นหลัก
